นายแบงก์มั่นใจธนาคารของไทยมีทุนแข็งแกร่งรับการเจรจา TPP และสามารถแข่งกับธนาคารต่างชาติได้ เพราะทาง ธปท. ดูแลอย่างเข้มงวด
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงข้อกังวลเกี่ยวกับความพร้อมภาคการเงินของไทยในการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (Trans-Pacific Strategic Economic Partnership Agreement : TPP) และรื้อฟื้นการประชุมคณะมนตรีภายใต้กรอบความตกลงการค้า และการลงทุนไทย-สหรัฐฯ หรือทิฟฟ่า ในช่วงที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เดินทางมาเยือนไทย โดยระบุว่า ภาคสถาบันการเงินของไทยมีความพร้อมทั้งด้านทุน และการแข่งขันด้านบริการ โดยสถาบันการเงินไทยมีความเข้มแข็งด้านเงินทุน และเป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลเรื่องนี้อย่างเข้มงวด มั่นใจสามารถแข่งขันกับสถาบันการเงินต่างประเทศได้
ขณะเดียวกัน การแข่งขันด้านการบริการเช่นเดียวกัน ธนาคารพาณิชย์ไทยสามารถปรับตัว และพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้เข้าถึงลูกค้าได้ โดยเน้นความเข้าใจในลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งธนาคารมีความพร้อม และมีการเปลี่ยนแปลงรับการแข่งขันอยู่แล้ว
นายปกรณ์ กล่าวด้วยว่า ข้อมูลจาก ธปท.พบว่า มีผู้ลงทะเบียนใช้บริการดิจิตอล แบงกิ้ง จำนวน 8 ล้านบัญชี โดยธนาคารกสิกรไทยมีฐานลูกค้าลงทะเบียนใช้บริการจำนวน 4.6 ล้านบัญชี คิดเป็นร้อยละ 60 ซึ่งแนวโน้มของโลกดิจิตอลจะมีอิทธิพลต่อผู้บริโภคใน 3 ปีต่อจากนี้ไป ดังนั้น ธนาคารได้วางยุทธศาสตร์เชิงรุกของการให้บริการดิจิตอล แบงกิ้ง โดยนำบริการดิจิตอล แบงกิ้ง เชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ดิจิตอลทั้งด้านชีวิตส่วนตัว การดำเนินธุรกิจ ตลอดจนการลงทุน มั่นใจว่าปีหน้าฐานลูกค้าที่ใช้บริการดิจิตอล แบงกิ้ง จะเติบโตเพิ่มอีกร้อยละ 30 ทำให้มีลูกค้าเพิ่มเป็น 6.5 ล้านราย