รอยเตอร์ - ออสเตรเลียเผยนโยบายกระตุ้นมูลค่าการค้ากับเอเชียให้ได้ถึง 1 ใน 3 ของจีดีพีภายในปี 2025 จาก25% ในปัจจุบัน โดยจะเน้นส่งเสริมการค้ากับจีนและอินเดียเป็นพิเศษ
จากเอกสารนโยบายชุดใหม่ซึ่งใช้ชื่อว่า “ออสเตรเลียในศตวรรษแห่งเอเชีย” (Australia in the Asian Century) นายกรัฐมนตรี จูเลีย กิลลาร์ด ระบุว่า การที่จีนและอินเดียก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกจะเป็นผลดีต่อออสเตรเลีย ซึ่งพร้อมที่จะส่งเสริมทั้งการค้าและการลงทุนกับภูมิภาคเอเชีย
“สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในศตวรรษนี้ย่อมจะทำให้เอเชียกลายเป็นผู้นำของโลก เอเชียกำลังมาแรง และไม่ใช่แรงแบบหยุดไม่ได้เท่านั้น แต่เร็วขึ้นทุกขณะ” กิลลาร์ด เผย
แม้เอกสารฉบับนี้จะยังไม่กำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน แต่ระบุเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวจากเอเชีย ตลอดจนผลิตอาหารและวางแผนการศึกษาให้เหมาะสมกับอุปสงค์แร่ธาตุจากเอเชีย ซึ่งทำให้อุตสาหกรรมเหมืองของออสเตรเลียเฟื่องฟูอยู่ในขณะนี้
แคนเบอร์รายังตั้งเป้าดึงเม็ดเงินลงทุนจากเอเชียและลดกำแพงการค้า แต่ยังไม่ได้เสนอให้แก้ไขกฎระเบียบว่าด้วยการลงทุน ซึ่งกำหนดให้พิจารณาแผนการลงทุนจากรัฐวิสาหกิจต่างชาติอย่างเข้มงวด
ออสเตรเลียเป็นหนึ่งใน 21 สมาชิกกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปก) และยังเป็นหนึ่งใน 11 ประเทศที่ร่วมเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership: TPP) ซึ่งล้วนมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการค้าเสรีในภูมิภาค
หลังจากที่ออสเตรเลียสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนอย่างเป็นทางการในต้นทศวรรษ 1970 ปักกิ่งก็ได้กลายเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของแดนจิงโจ้ ตามมาด้วยญี่ปุ่น, สหรัฐฯ และเกาหลีใต้
เอกสารนโยบายยังเน้นส่งเสริมการค้าและความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย รวมถึงอินเดียซึ่ง กิลลาร์ด เพิ่งจะเดินทางไปเยือนมาหมาดๆเมื่อต้นเดือนนี้
ออสเตรเลียจะยังรักษาความร่วมมือระหว่างกองทัพและความมั่นคงกับสหรัฐฯ พร้อมกับสนับสนุนให้จีนได้มีบทบาททางการทหารเพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้ โดยชี้ว่า ความพยายามปิดกั้นจีนจะไม่มีวันได้ผล
“เรายอมรับว่า การขยายแสนยานุภาพทางทหารของจีนเป็นเรื่องปกติ และเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่เติบโต และการแสวงหาผลประโยชน์ที่กว้างขวางขึ้น” เอกสารดังกล่าวระบุ