ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เปิดตัวโครงการ Mom tell, mom love ความสำเร็จในการเสริมสร้างสัมพันธภาพภายในครอบครัว เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดเผยผลเลือด HIV ของพ่อ-แม่ กับลูก โดยพบว่าครอบครัวปัจจุบันที่พ่อ-แม่ติดเชื้อ HIV มีมากกวาร้อยละ 90 ที่ไม่ได้เปิดเผยความจริงให้กับลูก หรือสมาชิกในครอบครัวได้รับรู้ เป็นความจำเป็นที่สถานพยาบาลต้องทำความเข้าใจกับผู้ติดเชื้อในโรคนี้
ศ.กิตติคุณ น.พ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ กล่าวว่า การบอกความจริงสำหรับผู้ติดเชื้อ HIV ต่อครอบครัว เป็นประโยชน์ที่จะช่วยลดความเครียดของผู้ติดเชื้อ ทำให้ไม่ต้องเผชิญปัญหาคนเดียว กล้าลุกขึ้นเผชิญปัญหา ลดความรู้สึกผิด ความกลัว หรือวิตกกังวล ว่าจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกับครอบครัว
นอกจากนี้ การที่ให้สมาชิกในครอบครัวได้รับทราบความจริง จะเป็นผลดีหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น การรักษา หรือการเข้าถึงยา เพื่อที่สมาชิกในครอบครัวจะได้มีข้อมูลให้ความช่วยเหลืออย่างถูกต้อง
ก่อนหน้านี้ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ดำเนินโครงการสำรวจความพร้อมและปัจจัยที่มีผลต่อการเปิดเผยผลเลือด HIV ของผู้ติดเชื้อที่มีบุตรอายุ 8 ปีขึ้นไป ในคลินิกครอบครัว ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา จำนวน 367 คน พบว่ามีเพียงร้อยละ 1 ที่ยอมเปิดเผยผลเลือดให้กับลูกได้รับทราบ ขณะที่ร้อยละ 15 ต้องการเปิดเผย และมีความพร้อมแล้ว แต่มีถึงร้อยละ 50 ที่ต้องการเปิดเผยผลเลือด แต่ยังไม่พร้อม
ขณะเดียวกัน ร้อยละ 32 ไม่ต้องการเปิดเผยผลเลือดให้กับลูกได้รับทราบ โดยพบว่าผู้ติดเชื้อ HIV กังวลว่า การเปิดเผยผลเลือดกับลูกที่มีอายุน้อยเกินไป อาจทำให้เด็กไม่เข้าใจเรื่องเชื้อ HIV และไม่สามารถเก็บความลับได้ ลูกอาจกลัวติดเชื้อจากพ่อ-แม่ และมองว่าพ่อ-แม่เป็นคนไม่ดี
ศ.กิตติคุณ น.พ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ กล่าวว่า การบอกความจริงสำหรับผู้ติดเชื้อ HIV ต่อครอบครัว เป็นประโยชน์ที่จะช่วยลดความเครียดของผู้ติดเชื้อ ทำให้ไม่ต้องเผชิญปัญหาคนเดียว กล้าลุกขึ้นเผชิญปัญหา ลดความรู้สึกผิด ความกลัว หรือวิตกกังวล ว่าจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกับครอบครัว
นอกจากนี้ การที่ให้สมาชิกในครอบครัวได้รับทราบความจริง จะเป็นผลดีหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น การรักษา หรือการเข้าถึงยา เพื่อที่สมาชิกในครอบครัวจะได้มีข้อมูลให้ความช่วยเหลืออย่างถูกต้อง
ก่อนหน้านี้ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ดำเนินโครงการสำรวจความพร้อมและปัจจัยที่มีผลต่อการเปิดเผยผลเลือด HIV ของผู้ติดเชื้อที่มีบุตรอายุ 8 ปีขึ้นไป ในคลินิกครอบครัว ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา จำนวน 367 คน พบว่ามีเพียงร้อยละ 1 ที่ยอมเปิดเผยผลเลือดให้กับลูกได้รับทราบ ขณะที่ร้อยละ 15 ต้องการเปิดเผย และมีความพร้อมแล้ว แต่มีถึงร้อยละ 50 ที่ต้องการเปิดเผยผลเลือด แต่ยังไม่พร้อม
ขณะเดียวกัน ร้อยละ 32 ไม่ต้องการเปิดเผยผลเลือดให้กับลูกได้รับทราบ โดยพบว่าผู้ติดเชื้อ HIV กังวลว่า การเปิดเผยผลเลือดกับลูกที่มีอายุน้อยเกินไป อาจทำให้เด็กไม่เข้าใจเรื่องเชื้อ HIV และไม่สามารถเก็บความลับได้ ลูกอาจกลัวติดเชื้อจากพ่อ-แม่ และมองว่าพ่อ-แม่เป็นคนไม่ดี