xs
xsm
sm
md
lg

ทส.ให้อำนาจจังหวัดสั่งปิดอุทยานฯ หากเกิดภัยพิบัติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายฐานิสร์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยังทำเนียบรัฐบาล และผู้ว่าราชการ 49 จังหวัด เพื่อรับมือและติดตามสถานการณ์จากอิทธิพลพายุแกมี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน ณ กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ทั้งนี้ นายปรีชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้มีการประชุมร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมทรัพยากรน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือผลกระทบจากพายุแกมี พร้อมกันนี้ ยังได้กล่าวขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่มีการเตรียมความพร้อมในการดูแลและช่วยเหลือประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่มอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ กรมทรัพยากรน้ำ ยังได้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์ 20 แห่งทั่วประเทศ และมีสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 10 ภาค ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ และสำนักงานบาดาลเขต 10 เขต นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ของกรมควบคุมมลพิษ ที่พร้อมเข้าไปดูแลน้ำท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ
พร้อมกันนี้ นายปรีชา ยังได้สั่งการให้อุทยานแห่งชาติทุกแห่งที่อาจได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก และอาจเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว สามารถปิดอุทยานฯ ได้ทันที
ทางด้านนายฐานิสร์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดดูแลประชาชนที่ประสบอุทกภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งขอให้ทุกจังหวัดติดตามข้อมูลข่าวสารและแจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบ รวมถึงให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังต่อไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะที่อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งสรุปสถานการณ์อุทกภัยต่อที่ประชุม ว่า ขณะนี้ทั่วประเทศมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 9 จังหวัด ได้แก่ จ.ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา พิษณุโลก พิจิตร อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรปราการ รวม 40 อำเภอ 323 ตำบล 2,089 หมู่บ้าน มีราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 100,000 ครัวเรือน หรือกว่า 200,000 คน
กำลังโหลดความคิดเห็น