ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำที่สำนักระบายน้ำ โดยได้สรุปปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในช่วง 20 วันที่ผ่านมา หรือตั้งแต่วันที่ 4 -23 กันยายน มีน้ำฝนเทียบเท่ากับ 1 ใน 2 ของเขื่อนป่าสัก หรือประมาณ 444 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งทางกรุงเทพมหานครพึงพอใจในการบริหารจัดการน้ำ เพราะว่าไม่มีน้ำท่วมขังเกิน 1 วัน
ส่วนเรื่องการระบายน้ำฝนออกจากถนนสายหลัก ยังคงใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง หากว่าฝนตกหนักเกิน 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเต็มประสิทธิภาพของการระบายน้ำแล้ว
ขณะที่นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ ยืนยันว่า ขณะนี้มีการทำงานร่วมกับรัฐบาลอย่างใกล้ชิด และมีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ.อย่างต่อเนื่อง ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ด้านนายธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในงานวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในประเทศไทยปีนี้ และเตือนให้กรุงเทพมหานครเริ่มที่จะเร่งพร่องน้ำในคลองต่างๆ เพื่อรองรับน้ำฝนที่ตกชุกเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม และเดือนพฤศจิกายนนี้ ทางภาคกลางและภาคใต้ตอนบน แต่ว่ามวลน้ำเหนือหลากในปีนี้ไม่มากเท่ากับปีที่แล้ว สิ่งที่ต้องระวังคือ ปริมาณน้ำฝนมากที่จะทำให้มีน้ำท่วมกรุงเทพฯ ได้
ส่วนเรื่องการระบายน้ำฝนออกจากถนนสายหลัก ยังคงใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง หากว่าฝนตกหนักเกิน 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเต็มประสิทธิภาพของการระบายน้ำแล้ว
ขณะที่นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ ยืนยันว่า ขณะนี้มีการทำงานร่วมกับรัฐบาลอย่างใกล้ชิด และมีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ.อย่างต่อเนื่อง ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ด้านนายธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในงานวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในประเทศไทยปีนี้ และเตือนให้กรุงเทพมหานครเริ่มที่จะเร่งพร่องน้ำในคลองต่างๆ เพื่อรองรับน้ำฝนที่ตกชุกเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม และเดือนพฤศจิกายนนี้ ทางภาคกลางและภาคใต้ตอนบน แต่ว่ามวลน้ำเหนือหลากในปีนี้ไม่มากเท่ากับปีที่แล้ว สิ่งที่ต้องระวังคือ ปริมาณน้ำฝนมากที่จะทำให้มีน้ำท่วมกรุงเทพฯ ได้