“อนุสรณ์” จวก ปชป.หวังน้ำท่วมทำ “ปู” หลุดนายกฯ โว กทม.น้ำไม่ท่วม เชื่อปีนี้ไม่หนัก

รองโฆษก รบ.ซัดประชาธิปัตย์เอาความเดือดร้อนน้ำท่วม ปชช.มาเล่นการเมืองหวังกระทบนายกฯ เผย 6 แผนระยะสั้นป้องเหตุอุทกภัย ลั่นน้ำไม่ท่วมเมืองหลวง ชี้ปีนี้ไม่อันตรายเท่าปีที่แล้ว เหตุฝนตกน้อยกว่าแถมไม่เจอพายุหนัก อ้างแค่ฝนตกตามฤดูกาล

วันนี้ (12 ก.ย.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ และกล่าวในงานว่ากรุงเทพฯ จะต้องรับชะตากรรมน้ำท่วมอีกครั้งเพราะรัฐบาลเอาไม่อยู่ว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ส่งสัญญาณแบบไม่ต้องเหนียมกันเลย จะเล่นเรื่องน้ำท่วมให้เต็มที่ หวังอาศัยน้ำให้พัดนายกรัฐมนตรีหลุดเก้าอี้ แบบนี้ชาวบ้านก็มีสิทธิ์สงสัยว่าตกลงจะเอาความเดือดร้อนของชาวบ้านมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพราะจะได้มีเรื่องดิสเครดิตรัฐบาลหรือไม่ แทนที่จะช่วยกันป้องกันแก้ไขเพื่อให้ประชาชนพ้นวิกฤตน้ำ และถ้าน้ำท่วมหนักเหมือนปีที่แล้วคงจะฉลองกันข้ามวันข้ามคืนเลยหรือไม่

นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า ตนขอพูดเพื่อดับฝันคนที่หวังจะให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ ว่าเสียใจด้วย เพราะสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดลุ่มแม่น้ำยมขณะนี้เป็นน้ำหลากตามธรรมชาติ ตราบที่ยังไม่มีเครื่องมือเก็บกักน้ำเพิ่มขึ้นก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่น้ำจะท่วมหรือเกิดภัยแล้งสลับกันอย่างนี้ตลอด ซึ่งรัฐบาลและภาคประชาชนต้องร่วมกันตัดสินอนาคต โดยรัฐบาลได้เตรียมวงเงินอีก 302,036 ล้านบาท เพื่อใช้ในการเชิญชวนผู้สนใจร่วมเสนอกรอบแนวคิดเพื่อออกแบบก่อสร้างระบบบริหารจัดการน้ำ และระบบการแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยอย่างยั่งยืน แต่แผนระยะสั้น 6 แผน ที่เรากำลังดำเนินการอยู่ คือ 1. การผันน้ำระหว่างลุ่มแม่น้ำยมและลุ่มแม่น้ำน่าน ทำให้น้ำที่ไม่เคยได้รับการกักเก็บถูกผันไปใช้ประโยชน์ในการเกษตร จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดพิษณุโลก ก็จะได้รับการจัดสรรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ 2. ย้ายประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จังหวัดปทุมธานี ช่วยให้เขตพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนบนได้รับการป้องกัน 3. ขุดลอกลำน้ำเจ้าพระยาทั้งสาย ช่วยให้การระบายน้ำของประเทศมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งในอดีตไม่มีใครเคยทำเรื่องนี้สำเร็จมาก่อน 4. ปรับระดับการจัดเก็บน้ำในเขื่อนใหญ่ เพื่อให้มีพื้นที่รองรับน้ำในช่วงฤดูฝน 5. ระบบ Single Command ทำให้การรายงานสถานการณ์น้ำเป็นไปในทิศทางเดียวกันเป็นครั้งแรก 6. สร้างเขื่อนที่จังหวัดนครสวรรค์ นิคมอุตสาหกรรมหลัก และยกถนนรอบกรุงเทพฯ กว่า 500 กิโลเมตร ช่วยทำให้เมืองหลวงรอดพ้นจากน้ำท่วม ก็จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า สถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ยังไม่ใช่สัญญาณอันตรายว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ เพราะปริมาณฝนตกปีนี้น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญปีนี้ยังไม่มีพายุไต้ฝุ่น ดีเปรสชัน หรือแม้แต่หางไต้ฝุ่นโจมตีประเทศไทย เหตุน้ำท่วมที่เกิดขึ้นจึงเป็นผลกระทบจากฝนตกหนักตามฤดูกาลแล้วน้ำหลากเท่านั้น จุดที่ต้องระวังในปีนี้มีเพียงปริมาณฝนตกในจังหวัดภาคกลางตอนบน ที่มีแนวโน้มมากกว่าปีที่แล้ว ทำให้เกิดน้ำท่วมกระจายในพื้นที่ลุ่มต่ำจังหวัดภาคกลาง แต่กรุงเทพฯ จะไม่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน