ส.ส.เพื่อไทย ยกพวกบุก กทม.ทวงถามเงินเยียวยา และแผนป้องกันน้ำท่วมกรุง “สุขุมพันธุ์” ยันรออนุมัติงบจากรัฐบาลจ่ายเงินประชาชนไม่มีมุบมิบ ชี้ กังวลถนนสายไหนท่วมขังมากให้ระบุมา ส่วน “จิรายุ” ยังไม่หยุดชวนผู้ว่าฯตรวจสอบอุโมงค์ยักษ์
วันนี้ (20 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) นายวิชาญ มีนชัยนันท์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายการุณ โหสกุล นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามทวงถามเงินช่วยเหลือน้ำท่วม และแผนการป้องกันน้ำท่วมในเขตกรุงเทพมหานคร
นายวิชาญ กล่าวว่า พวกตนมายื่นหนังสือเพื่อติดตามทวงถาม เพราะมีชาว กทม.หลายเขตยังไม่ได้รับเงินเยียวยาและเงินเพิ่มเติม ซึ่งเบื้องต้นเงินเยียวยา จำนวน 5,000 บาท น่าจะได้รับเกือบหมด แต่เงินจำนวน 20,000 บาท ยังมีบางรายไม่ได้และกังวลว่าจะได้รับเงินหรือไม่ ส่วนเรื่องที่สอง เป็นเรื่องปัญหาการระบายน้ำ ซึ่งพวกตนเองอยู่ในฝั่งตะวันออก และได้รับปัญหาความเดือดร้อน ฝนเริ่มตก และน้ำทางเหนือยังไม่ได้ไหลผ่านในพื้นที่ กทม.แต่ปริมาณฝนที่ตก ทำให้เกิดน้ำท่วม การจราจรติดขัดหลายชั่วโมง ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ดังนั้น พวกตนจึงเกิดความวิตกกังวล เพราะหากฝนตกหนักมากกว่านี้ จะทำให้เกิดน้ำท่วมกรุงเทพฯได้ และหากน้ำเหนือไหลลงมาก็จะยิ่งมีปัญหา
นายวิชาญ กล่าวอีกว่า ในเรื่องเงินงบประมาณที่ กทม.ได้รับงบสนับสนุนจากรัฐบาลกว่า 1,900 ล้านบาท ได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง เพราะบางคลองยังมีผักตบชวา หรืออย่างคลองแสบแสบ เวลาที่เรือวิ่งก็มีขี้เลนขึ้นมา แสดงว่า ยังไม่มีการขุดลอกคลอง และตอนเหนือคลองแสนแสบขึ้นไป ก็มีปริมาณน้ำมากที่หนองจอก ลาดกระบัง ซึ่งพวกตนเป็นห่วงว่า ถึงแม้น้ำเหนือยังมาไม่ถึง แต่รอบนอกโดยเฉพาะที่เป็นฟลัดเวย์ ซึ่งมีหมู่บ้านจัดสรรที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ในเส้นเขียวลาย จึงอยากให้ผู้ว่าฯ กทม.ลงไปตรวจสอบเพราะหมู่บ้านเหล่านี้ขวางทางน้ำอยู่ ดังนั้น พวกเราจึงได้มายื่นหนังสือขอให้ช่วยดูแลในประเด็นดังกล่าว ซึ่งหากท่านผู้ว่าฯ กทม.อยากให้ช่วยประสานงานในระดับที่เหนือขึ้นไป หรือที่คิดว่าเป็นประเด็นปัญหาที่ติดขัด ซึ่งในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำขึ้นมาเร่งด่วน ซึ่งทาง นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็เห็นด้วย โดยฝากให้ตนเองนำแจ้งผู้ว่าฯ กทม.เพื่อที่รัฐบาลจะได้ช่วยกันแก้ไข
“พวกตนไม่มีเจตนายื่นหนังสือให้เกิดประเด็นปัญหาทางการเมือง แต่ผู้ว่าฯ กทม.อาจจะลงตรวจพื้นที่ไม่ทั่วถึง"
ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ปัญหาที่ท่านกังวลในฐานะผู้แทนประชาชน ก็เป็นปัญหาเดียวกันกับตน โดยในส่วนของเงินเยียวยา 5,000 บาทนั้น เสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนเงิน 20,000 บาท ที่เปิดให้ยื่นครั้งแรกเกือบ 3 แสนราย ได้มีการจ่ายเงินเยียวยาไปแล้ว 1,200 กว่าล้านบาท จากที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณมาเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.1,900 ล้านบาท ซึ่งหลักฐานส่วนใหญ่ได้ส่งไปที่กรมป้องกันและยรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เรียบร้อยแล้ว จากนั้นรัฐบาลได้เปิดให้มีการยื่นอุทธรณ์ของผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ตกสำรวจและยื่นขอทบทวน ปรากฏว่า พี่น้องประชาชนมายื่นอุทรณ์รวม 1.3 แสนราย ในเรื่องนี้ กทม.ได้รับเรื่องมาจนถึงวันที่ 10 ส.ค.จากนั้นในที่ 24 ส.ค.กทม.ได้ทำหนังสือถึง ปภ.เพื่อขออนุมัติวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีอุทกภัย) เพิ่มเติมอีก 1,142,979,400 บาท เพราะที่เหลือจากรอบแรก 700 ล้านบาท กทม.ได้ดำเนินการจ่ายผู้ประสบภัยไปแล้วแต่ไม่เพียงพอ ซึ่งขณะนี้กำลังรอการพิจารณาจากรัฐบาลอยู่ อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ประสานมายัง กทม.เพื่อให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องนี้ไม่ได้ทอดทิ้ง กทม.ซึ่งหาก กทม.ได้รับเงินงบประมาณมาจะรีบจ่ายทันทีขอให้ท่าน ส.ส.วางใจได้
“ส่วนเรื่องน้ำหากปริมาณฝนตกเกิน 60 มิลลิเมตร ต้องใช้เวลาในการระบาย เช่น ในช่วงวันที่ 14-16 ก.ย.ปริมาณน้ำฝนตกในฝั่งธนบุรีกว่า 300 มิลลิเมตร ขณะที่ฝั่งพระนคร เกือบ 300 มิลลิเมตร ขณะที่ค่าเฉลี่ยฝนตกใน กทม.1,500 มิลลิเมตรต่อปี ซึ่งการระบายน้ำในถนนสายหลักสามารถดำเนินการได้ภายใน 2-3 ชั่วโมง แต่หากยังมีความกังวลในถนนสายไหนเป็นพิเศษขอให้แจ้งรายชื่อมาจะดีกว่า ส่วนคลองแสนแสบ ได้มีการขุดลอกไปตั้งแต่ปี 2553 แล้วในปีนี้จึงไม่ได้ดำเนินการ เพราะยังอยู่ในสภาพที่ใช้ได้ ห่วงแต่คลองลาดพร้าว บางซื่อ ที่อยู่นอกความรับผิดชอบของ กทม.” ผู้ว่าฯกทม.กล่าว
ด้าน นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในสัปดาห์หน้า ตนเองอยากจะเชิญผู้ว่าฯ กทม.ลงไปตรวจสอบการใช้งานของอุโมงค์ยักษ์ด้วย
วันนี้ (20 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) นายวิชาญ มีนชัยนันท์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายการุณ โหสกุล นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามทวงถามเงินช่วยเหลือน้ำท่วม และแผนการป้องกันน้ำท่วมในเขตกรุงเทพมหานคร
นายวิชาญ กล่าวว่า พวกตนมายื่นหนังสือเพื่อติดตามทวงถาม เพราะมีชาว กทม.หลายเขตยังไม่ได้รับเงินเยียวยาและเงินเพิ่มเติม ซึ่งเบื้องต้นเงินเยียวยา จำนวน 5,000 บาท น่าจะได้รับเกือบหมด แต่เงินจำนวน 20,000 บาท ยังมีบางรายไม่ได้และกังวลว่าจะได้รับเงินหรือไม่ ส่วนเรื่องที่สอง เป็นเรื่องปัญหาการระบายน้ำ ซึ่งพวกตนเองอยู่ในฝั่งตะวันออก และได้รับปัญหาความเดือดร้อน ฝนเริ่มตก และน้ำทางเหนือยังไม่ได้ไหลผ่านในพื้นที่ กทม.แต่ปริมาณฝนที่ตก ทำให้เกิดน้ำท่วม การจราจรติดขัดหลายชั่วโมง ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ดังนั้น พวกตนจึงเกิดความวิตกกังวล เพราะหากฝนตกหนักมากกว่านี้ จะทำให้เกิดน้ำท่วมกรุงเทพฯได้ และหากน้ำเหนือไหลลงมาก็จะยิ่งมีปัญหา
นายวิชาญ กล่าวอีกว่า ในเรื่องเงินงบประมาณที่ กทม.ได้รับงบสนับสนุนจากรัฐบาลกว่า 1,900 ล้านบาท ได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง เพราะบางคลองยังมีผักตบชวา หรืออย่างคลองแสบแสบ เวลาที่เรือวิ่งก็มีขี้เลนขึ้นมา แสดงว่า ยังไม่มีการขุดลอกคลอง และตอนเหนือคลองแสนแสบขึ้นไป ก็มีปริมาณน้ำมากที่หนองจอก ลาดกระบัง ซึ่งพวกตนเป็นห่วงว่า ถึงแม้น้ำเหนือยังมาไม่ถึง แต่รอบนอกโดยเฉพาะที่เป็นฟลัดเวย์ ซึ่งมีหมู่บ้านจัดสรรที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ในเส้นเขียวลาย จึงอยากให้ผู้ว่าฯ กทม.ลงไปตรวจสอบเพราะหมู่บ้านเหล่านี้ขวางทางน้ำอยู่ ดังนั้น พวกเราจึงได้มายื่นหนังสือขอให้ช่วยดูแลในประเด็นดังกล่าว ซึ่งหากท่านผู้ว่าฯ กทม.อยากให้ช่วยประสานงานในระดับที่เหนือขึ้นไป หรือที่คิดว่าเป็นประเด็นปัญหาที่ติดขัด ซึ่งในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำขึ้นมาเร่งด่วน ซึ่งทาง นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็เห็นด้วย โดยฝากให้ตนเองนำแจ้งผู้ว่าฯ กทม.เพื่อที่รัฐบาลจะได้ช่วยกันแก้ไข
“พวกตนไม่มีเจตนายื่นหนังสือให้เกิดประเด็นปัญหาทางการเมือง แต่ผู้ว่าฯ กทม.อาจจะลงตรวจพื้นที่ไม่ทั่วถึง"
ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ปัญหาที่ท่านกังวลในฐานะผู้แทนประชาชน ก็เป็นปัญหาเดียวกันกับตน โดยในส่วนของเงินเยียวยา 5,000 บาทนั้น เสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนเงิน 20,000 บาท ที่เปิดให้ยื่นครั้งแรกเกือบ 3 แสนราย ได้มีการจ่ายเงินเยียวยาไปแล้ว 1,200 กว่าล้านบาท จากที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณมาเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.1,900 ล้านบาท ซึ่งหลักฐานส่วนใหญ่ได้ส่งไปที่กรมป้องกันและยรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เรียบร้อยแล้ว จากนั้นรัฐบาลได้เปิดให้มีการยื่นอุทธรณ์ของผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ตกสำรวจและยื่นขอทบทวน ปรากฏว่า พี่น้องประชาชนมายื่นอุทรณ์รวม 1.3 แสนราย ในเรื่องนี้ กทม.ได้รับเรื่องมาจนถึงวันที่ 10 ส.ค.จากนั้นในที่ 24 ส.ค.กทม.ได้ทำหนังสือถึง ปภ.เพื่อขออนุมัติวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีอุทกภัย) เพิ่มเติมอีก 1,142,979,400 บาท เพราะที่เหลือจากรอบแรก 700 ล้านบาท กทม.ได้ดำเนินการจ่ายผู้ประสบภัยไปแล้วแต่ไม่เพียงพอ ซึ่งขณะนี้กำลังรอการพิจารณาจากรัฐบาลอยู่ อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ประสานมายัง กทม.เพื่อให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องนี้ไม่ได้ทอดทิ้ง กทม.ซึ่งหาก กทม.ได้รับเงินงบประมาณมาจะรีบจ่ายทันทีขอให้ท่าน ส.ส.วางใจได้
“ส่วนเรื่องน้ำหากปริมาณฝนตกเกิน 60 มิลลิเมตร ต้องใช้เวลาในการระบาย เช่น ในช่วงวันที่ 14-16 ก.ย.ปริมาณน้ำฝนตกในฝั่งธนบุรีกว่า 300 มิลลิเมตร ขณะที่ฝั่งพระนคร เกือบ 300 มิลลิเมตร ขณะที่ค่าเฉลี่ยฝนตกใน กทม.1,500 มิลลิเมตรต่อปี ซึ่งการระบายน้ำในถนนสายหลักสามารถดำเนินการได้ภายใน 2-3 ชั่วโมง แต่หากยังมีความกังวลในถนนสายไหนเป็นพิเศษขอให้แจ้งรายชื่อมาจะดีกว่า ส่วนคลองแสนแสบ ได้มีการขุดลอกไปตั้งแต่ปี 2553 แล้วในปีนี้จึงไม่ได้ดำเนินการ เพราะยังอยู่ในสภาพที่ใช้ได้ ห่วงแต่คลองลาดพร้าว บางซื่อ ที่อยู่นอกความรับผิดชอบของ กทม.” ผู้ว่าฯกทม.กล่าว
ด้าน นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในสัปดาห์หน้า ตนเองอยากจะเชิญผู้ว่าฯ กทม.ลงไปตรวจสอบการใช้งานของอุโมงค์ยักษ์ด้วย
