ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีต้นทุนด้านลอจิสติกส์ประมาณร้อยละ 14.5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) อยู่ในอันดับ 3 ในขณะที่สิงคโปร์มีต้นทุนด้านลอจิสติกส์ต่ำที่สุดเพียงร้อยละ 8 ตามด้วยมาเลเซีย
อย่างไรก็ตาม ต้นทุนด้านลอจิสติกส์ของประเทศไทยยังต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบอยู่มาก ดังนั้น ประเทศไทยจึงจำเป็นต้อง พยายามปรับปรุงประสิทธิภาพในทุกด้านเพื่อลดต้นทุนลอจิสติกส์ลงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งนี้ภาพรวมต้นทุนด้านลอจิสติกส์ของประเทศไทยนับว่าดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับปี 2554 ที่สูงถึงประมาณร้อยละ18 ของจีดีพี
สำหรับการเตรียมพร้อมของไทยในการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) นั้น ประเทศไทยจะต้องเตรียมความพร้อมด้าน soft side ซึ่งหมายถึงระบบงานต่างๆ ที่จะมาสนับสนุนรองรับและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านลอจิสติกส์ของประเทศ ซึ่งขณะนี้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เดินหน้าจัดทำระบบ national single window มีกำหนดแล้วเสร็จในปีหน้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยเอื้ออำนวยให้ภาคเอกชนมีความสะดวกในการนำเข้าส่งออกสินค้ามากขึ้น โดยคาดหวังว่า รถจะผ่านด่านศุลกากรได้ภายใน 5 นาที
ทั้งนี้ การเชื่อมโยงของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางเชื่อมอาเซียน จะดำเนินการผ่านโครงการลงทุนปรับปรุงระบบโทรคมนาคม ระบบรางงบประมาณ 2 ล้านล้านบาท เช่น ระบบราง รถไฟฟ้า เชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน ด้าน soft side มีเร่งพัฒนาคน ระบบการจัดการ ข้อกฎหมาย โดยเตรียมแผนที่จะลดต้นทุนลอจิสติกส์ใจอุตสาหกรรมที่มีต้นทุนสูง ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ ปิโตรเคมี สิ่งทอ
อย่างไรก็ตาม ต้นทุนด้านลอจิสติกส์ของประเทศไทยยังต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบอยู่มาก ดังนั้น ประเทศไทยจึงจำเป็นต้อง พยายามปรับปรุงประสิทธิภาพในทุกด้านเพื่อลดต้นทุนลอจิสติกส์ลงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งนี้ภาพรวมต้นทุนด้านลอจิสติกส์ของประเทศไทยนับว่าดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับปี 2554 ที่สูงถึงประมาณร้อยละ18 ของจีดีพี
สำหรับการเตรียมพร้อมของไทยในการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) นั้น ประเทศไทยจะต้องเตรียมความพร้อมด้าน soft side ซึ่งหมายถึงระบบงานต่างๆ ที่จะมาสนับสนุนรองรับและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านลอจิสติกส์ของประเทศ ซึ่งขณะนี้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เดินหน้าจัดทำระบบ national single window มีกำหนดแล้วเสร็จในปีหน้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยเอื้ออำนวยให้ภาคเอกชนมีความสะดวกในการนำเข้าส่งออกสินค้ามากขึ้น โดยคาดหวังว่า รถจะผ่านด่านศุลกากรได้ภายใน 5 นาที
ทั้งนี้ การเชื่อมโยงของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางเชื่อมอาเซียน จะดำเนินการผ่านโครงการลงทุนปรับปรุงระบบโทรคมนาคม ระบบรางงบประมาณ 2 ล้านล้านบาท เช่น ระบบราง รถไฟฟ้า เชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน ด้าน soft side มีเร่งพัฒนาคน ระบบการจัดการ ข้อกฎหมาย โดยเตรียมแผนที่จะลดต้นทุนลอจิสติกส์ใจอุตสาหกรรมที่มีต้นทุนสูง ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ ปิโตรเคมี สิ่งทอ
