นายชางยอง รี หัวหน้านักเศรษฐกรของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี เปิดเผยรายงานเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจที่สำคัญสำหรับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ประจำปี 2555 ว่า ภูมิภาคเอเชียกำลังเผชิญกับภาวะการเติบโตของชุมชนเมืองในอัตราที่รวดเร็วอย่างคาดไม่ถึง โดยในเอเชียมีประชากรอาศัยในชุมชนเมืองเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และคาดว่าในอีก 30 ปี พลเมืองเอเชียอีก 1,100 ล้านคน จะเข้ามาอาศัยอยู่ในชุมชนเมือง ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหามลภาวะ ชุมชนแออัด และแหล่งเสื่อมโทรม นำมาซึ่งความเสื่อมโทรมทางสิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 10.2 เมตริกตันต่อประชากร ภายในปี 2593 เป็นระดับที่อาจเกิดหายนะต่อทั้งโลกได้
นอกจากนี้ คนในเอเชียที่อาศัยตามเมืองต่างๆ กว่า 400 ล้านคน จะเสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมชายฝั่ง และอีก 350 ล้านคน เสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมเมือง ภายในปี 2568 หากไม่มีการบริหารจัดการที่เหมาะสม อาจจะเกิดอุทกภัยเหมือนในประเทศไทยเมื่อปลายปีที่แล้ว ดังนั้น รัฐบาลแต่ละประเทศจะต้องหามาตรการส่งเสริมเมืองให้ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ ปรับปรุงสภาพแวดล้อม พัฒนาพลังงานทางเลือก พัฒนาพลังงานทดแทน สร้างระบบการคมนาคมแบบยั่งยืน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะช่วยรับมือกับความเสี่ยงได้
นอกจากนี้ คนในเอเชียที่อาศัยตามเมืองต่างๆ กว่า 400 ล้านคน จะเสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมชายฝั่ง และอีก 350 ล้านคน เสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมเมือง ภายในปี 2568 หากไม่มีการบริหารจัดการที่เหมาะสม อาจจะเกิดอุทกภัยเหมือนในประเทศไทยเมื่อปลายปีที่แล้ว ดังนั้น รัฐบาลแต่ละประเทศจะต้องหามาตรการส่งเสริมเมืองให้ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ ปรับปรุงสภาพแวดล้อม พัฒนาพลังงานทางเลือก พัฒนาพลังงานทดแทน สร้างระบบการคมนาคมแบบยั่งยืน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะช่วยรับมือกับความเสี่ยงได้