xs
xsm
sm
md
lg

กนป.มีมติให้ อคส.นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ 30,000 ตัน เริ่ม ส.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายน้ำมันปาล์มแห่งชาติ (กนป.) ที่มี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน มีมติให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบอีก 30,000 ตัน ที่เหลือจากมติคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้กระทรวงพาณิชย์นำเข้าน้ำมันปาล์ม 40,000 ตัน เนื่องจากขณะนี้มีน้ำมันปาล์มดิบอยู่ในสต๊อกเพียง 130,000 ตันเท่านั้น จากปกติในสต๊อกต้องมีน้ำมันปาล์มเกิน 200,000 ตัน
ทั้งนี้ที่ประชุมปาล์มได้เร่งให้ อคส.นำเข้าให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ ก่อนที่จะมีผลผลิตปาล์มออกสู่ตลาดช่วงปลายเดือนสิงหาคม คาดว่ากระทรวงพาณิชย์จะเสนอคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่ จ.สุรินทร์ ในวันที่ 30 สิงหาคมพิจารณา
ขณะที่กระทรวงพลังงาน รายงานว่า กระทรวงพลังงาน จะปรับเปลี่ยนการใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 5 เป็นไบโอดีเซลบี 3.5 เพื่อลดการใช้น้ำมันปาล์มดิบลงได้ประมาณ 15,000 ตันต่อเดือน หากสถานการณ์ดีขึ้นจะกลับมาผสมเป็นไบโอดีเซลบี 5 อีกครั้ง ซึ่งหากนำเข้าน้ำมันปาลม์เพิ่มขึ้นจะทำให้ในสต็อกมีน้ำมันปาล์มประมาณ 160,000 ตัน สำหรับสาเหตุน้ำมันปาล์มดิบในประเทศน้อยลง เพราะผลผลิตปาล์มลดลงเป็นผลกระทบจากสภาวะอากาศที่แปรปรวน
ทั้งนี้เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนที่ผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากขึ้น ขณะที่ตัวแทนเกษตรกรที่ได้เข้าร่วมประชุมเห็นว่า หลังจากการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ รัฐบาลควรติดตามสถานการณ์ราคาอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ราคาผลปาล์มอยู่ที่ 5.60-6 บาทต่อกิโลกรัม แต่เมื่อราคาต่ำกว่า 5 บาทต่อกิโลกรัมต้องกลับมาหารือกันอีกครั้ง ส่วนโรงกลั่นน้ำมันปาล์มพอใจ เพราะมีวัตถุดิบมาผลิตน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ได้ เนื่องจากจะมีการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบราคา 29-30 บาทต่อกิโลกรัม มาใช้ผลิตน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ขายราคาอยู่ที่ 42 บาทต่อกิโลกรัม
ด้าน นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ไม่นำสถานการณ์น้ำมันปาล์มเข้าพิจารณาในคณะรัฐมนตรีครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากมติคณะรัฐตรีเมื่อวันที่ 10 เมษายน ระบุว่า การแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรทุกชนิดต้องนำไปพิจารณาในคณะกรรมการนโยบายด้านการเกษตรแต่ละชุดให้เสร็จสิ้นก่อน
ขณะที่ นางวิวรรณ บุณยประทีปรัตน์ เลขาธิการสมาคมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจที่น้ำมันปาล์มในสต๊อกลดลง แต่ยังเชื่อตัวเลขที่กระทรวงพาณิชย์แจ้งมา โดยวันนี้ทุกฝ่ายยอมรับมติที่ออกมา จากตัวเลขที่พบว่ามีจำนวนลดลงจริง
ทั้งนี้ยอมรับว่า สภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงเป็นผลให้ผลผลิตปาล์มน้อยลง โดยจากสถิติผลผลิตของทุกปีจะมีการขยับขึ้น-ลงทุกเดือน แต่ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมามีผลผลิตคงที่ 800,000 - 900,000 ตัน มาโดยตลอด ดังนั้น เมื่อรัฐบาลตัดสินใจนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบแล้วจะทำให้มีน้ำมันปาล์มดิบในสต็อกอยู่ระยะที่เหมาะสม 160,000 ตัน จากเดิมอยู่ในระยะวิกฤตที่ 130,000 ตัน
กำลังโหลดความคิดเห็น