นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเปิดงานสัมมนา“รวมพลังราชการไทย ลดการใช้พลังงาน” ว่า รัฐบาลได้กำหนดโยบายให้หน่วยงานราชการกว่า 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศดำเนินมาตราการลดใช้พลังงานลงให้ได้อย่างน้อย 10% และกำหนดให้เป็นดัชนีชี้วัดผลงานแต่ละหน่วยด้วย เพื่อต้องการลดรายจ่ายการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ โดยตั้งเป้าหมายหากได้รับความร่วมมือจะช่วยลดการใช้พลังงานลงคิดเป็นมูลค่า 1,619 ล้านบาท/ปี และการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 2.27 แสนตัน
ทั้งนี้กระทรวงพลังงานได้ทบทวนมาตรการประหยัดพลังงานภาครัฐและจัดทำแผนปฏิบัติเพื่อขับเคลื่อนให้นโยบายลดใช้พลังงานภาครัฐให้สำเร็จลงตามเป้าหมาย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการปีงบประมาณ 2555 เป็นต้นไป โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้เริ่มโครงการด้วยการ ปิดไฟที่ทำเนียบรัฐบาล ส่งสัญญาณให้รู้ว่าถึงเวลาที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันประหยัดพลังงาน ซึ่งใช้แคมเปญ กดปิดทันทีเมื่อเลิกใช้ กดLike(ไลค์)ให้เลย
สำหรับมาตรการที่ส่วนราชการจะนำไปปฏิบัติเพื่อลดการใช้พลังงาน ประกอบไปด้วย 1. การเปิดพัดลมและปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศขึ้น 1 องศา 2. การล้างเครื่องปรับอากาศ 3. การลดชั่วโมงการทำงานของเครื่องปรับอากาศ 1ชม. 4. อุดรอยรั่วของพื้นที่ปรับอากาศ 5. ปิดไฟพักเที่ยง 1ชม. 6. ลดจำนวนหลอดไฟใช้แสง 7.การประหยัดในรถยนต์ ขับไม่เกิน 90 กม./ชม. ไม่ขับก็ดับเครื่องปิดแอร์ ใช้ระบบคาร์พูล ล้างไส้กรอง เป็นต้น
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน( สนพ.) กล่าวว่า ผลที่คาดจะได้รับจากการลดใช้พลังงานของส่วนราชการทั่วประเทศ นั้น จะลดการใช้ไฟฟ้าลง 316.9 ล้านหน่วย คิดเป็นเงิน 950 ล้านบาท และลดการใช้น้ำมันชื้อเพลิงได้ 19.1 ล้านลิตร คิดเป็นเงิน 669 ล้านบาท รวมลดการใช้พลังงานได้ 1,619 ล้านบาท
สำหรับมาตรการส่งเสริมการประหยัดพลังงานของภาคเอกชนนั้นเป็นมาตรการเดิมที่ดำเนินการยู่แล้ว โดยจะขยายการใช้มาตรการให้มากขึ้น เช่น การสนับสนุนเงินทุนในการปรับเปลี่ยนเรื่องและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงาน รวมทั้งสนับสนุนให้อาคารควบคุมของรัฐกว่า 800 แห่ง ปรับปรุงอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน ซึ่งต้องใช้งบประมาณ 6,300 ล้านบาท โดยสามารถใช้งบสนับสนุนผ่านบริษัทจัดการพลังงาน (เอสโค่ )เพื่อร่วมปล่อยสินเชื่อ และหากการใช้พลังงานได้จริง จะช่วยประหยัดได้ถึง 1,800 ล้านบาท/ปี
ทั้งนี้กระทรวงพลังงานได้ทบทวนมาตรการประหยัดพลังงานภาครัฐและจัดทำแผนปฏิบัติเพื่อขับเคลื่อนให้นโยบายลดใช้พลังงานภาครัฐให้สำเร็จลงตามเป้าหมาย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการปีงบประมาณ 2555 เป็นต้นไป โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้เริ่มโครงการด้วยการ ปิดไฟที่ทำเนียบรัฐบาล ส่งสัญญาณให้รู้ว่าถึงเวลาที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันประหยัดพลังงาน ซึ่งใช้แคมเปญ กดปิดทันทีเมื่อเลิกใช้ กดLike(ไลค์)ให้เลย
สำหรับมาตรการที่ส่วนราชการจะนำไปปฏิบัติเพื่อลดการใช้พลังงาน ประกอบไปด้วย 1. การเปิดพัดลมและปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศขึ้น 1 องศา 2. การล้างเครื่องปรับอากาศ 3. การลดชั่วโมงการทำงานของเครื่องปรับอากาศ 1ชม. 4. อุดรอยรั่วของพื้นที่ปรับอากาศ 5. ปิดไฟพักเที่ยง 1ชม. 6. ลดจำนวนหลอดไฟใช้แสง 7.การประหยัดในรถยนต์ ขับไม่เกิน 90 กม./ชม. ไม่ขับก็ดับเครื่องปิดแอร์ ใช้ระบบคาร์พูล ล้างไส้กรอง เป็นต้น
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน( สนพ.) กล่าวว่า ผลที่คาดจะได้รับจากการลดใช้พลังงานของส่วนราชการทั่วประเทศ นั้น จะลดการใช้ไฟฟ้าลง 316.9 ล้านหน่วย คิดเป็นเงิน 950 ล้านบาท และลดการใช้น้ำมันชื้อเพลิงได้ 19.1 ล้านลิตร คิดเป็นเงิน 669 ล้านบาท รวมลดการใช้พลังงานได้ 1,619 ล้านบาท
สำหรับมาตรการส่งเสริมการประหยัดพลังงานของภาคเอกชนนั้นเป็นมาตรการเดิมที่ดำเนินการยู่แล้ว โดยจะขยายการใช้มาตรการให้มากขึ้น เช่น การสนับสนุนเงินทุนในการปรับเปลี่ยนเรื่องและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงาน รวมทั้งสนับสนุนให้อาคารควบคุมของรัฐกว่า 800 แห่ง ปรับปรุงอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน ซึ่งต้องใช้งบประมาณ 6,300 ล้านบาท โดยสามารถใช้งบสนับสนุนผ่านบริษัทจัดการพลังงาน (เอสโค่ )เพื่อร่วมปล่อยสินเชื่อ และหากการใช้พลังงานได้จริง จะช่วยประหยัดได้ถึง 1,800 ล้านบาท/ปี