น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน ว่าทางรัฐบาลได้เดินทางเยือนประเทศยุโรป คือ เยอรมนี และฝรั่งเศส เพื่อหารือในระดับทวิภาคี โดยมีนักธุรกิจ จำนวน 73 ราย ร่วมคณะ เพื่อเจรจากับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ของยุโรป โดย 2 ประเทศ ต่างพอใจการเยือนครั้งนี้ และได้ให้ความสนใจลงทุนไทยเพิ่มจากเดิม ซึ่งได้ชี้แจงข้อมูลส่งเสริมการลงทุน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับ 2 ประเทศ เนื่องจากประเทศไทยนั้น ถือเป็นประตูสู่อาเซียน นับเป็นโอกาสอันดีของประเทศ
โดยเยอรมันนั้น ถือเป็นประเทศคู่ค้าส่งออกของไทย อันดับ 1 ของกลุ่มประเทศยุโรป ได้เห็นชอบส่งเจ้าหน้าที่ทางเทคนิค เพื่อพัฒนาสินค้าสดส่งออกให้ได้คุณภาพมาตรฐานที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรของไทย ขณะฝรั่งเศส ถือเป็นประเทศผู้นำด้านแฟชั่น มีนักดีไซน์ระดับโลกอยู่ที่นี่ ทางรัฐบาลได้มองในเรื่องของอุตสาหกรรมสิ่งทอ เพื่อหาทางร่วมมือในการพัฒนาออกแบบร่วมกัน เนื่องจากคนไทยโดยพื้นฐานมีฝีมือในการออกแบบ โดยเฉพาะแฟชั่น สิ่งทอ อัญมณี ได้ดีไม่ต่างจากต่างชาติ นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศ ยังนิยมอาหารไทย จึงเป็นโอกาสที่ดี ที่จะให้มีการผลักดันครัวไทยสู่ครัวโลก ด้วยการประชาสัมพันธ์ และต่อยอดภูมิความรู้ให้นักธุรกิจทั้ง 2 ประเทศ ให้มีความเป็นมืออาชีพเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินทางเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และสาธารณรัฐฝรั่งเศส ได้ถือโอกาสเยือนคนไทยในทั้ง 2 ประเทศ พบว่ามีการรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็ง จึงเป็นการไปให้กำลังใจคนไทยในต่างประเทศ ขณะที่ทั้ง 2 ประเทศ มีการชื่นชมประเทศไทย ว่า เป็นประเทศที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ด้วย
ายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการแต่งกายชุดผ้าไหมของไทย ในการพบปะกับผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ ว่า ถือโอกาสนำภูมิปัญญาของคนไทย ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจนั้น แสดงต่อต่างชาติ ให้ได้เห็นความงดงามอีกด้วย
โดยเยอรมันนั้น ถือเป็นประเทศคู่ค้าส่งออกของไทย อันดับ 1 ของกลุ่มประเทศยุโรป ได้เห็นชอบส่งเจ้าหน้าที่ทางเทคนิค เพื่อพัฒนาสินค้าสดส่งออกให้ได้คุณภาพมาตรฐานที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรของไทย ขณะฝรั่งเศส ถือเป็นประเทศผู้นำด้านแฟชั่น มีนักดีไซน์ระดับโลกอยู่ที่นี่ ทางรัฐบาลได้มองในเรื่องของอุตสาหกรรมสิ่งทอ เพื่อหาทางร่วมมือในการพัฒนาออกแบบร่วมกัน เนื่องจากคนไทยโดยพื้นฐานมีฝีมือในการออกแบบ โดยเฉพาะแฟชั่น สิ่งทอ อัญมณี ได้ดีไม่ต่างจากต่างชาติ นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศ ยังนิยมอาหารไทย จึงเป็นโอกาสที่ดี ที่จะให้มีการผลักดันครัวไทยสู่ครัวโลก ด้วยการประชาสัมพันธ์ และต่อยอดภูมิความรู้ให้นักธุรกิจทั้ง 2 ประเทศ ให้มีความเป็นมืออาชีพเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินทางเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และสาธารณรัฐฝรั่งเศส ได้ถือโอกาสเยือนคนไทยในทั้ง 2 ประเทศ พบว่ามีการรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็ง จึงเป็นการไปให้กำลังใจคนไทยในต่างประเทศ ขณะที่ทั้ง 2 ประเทศ มีการชื่นชมประเทศไทย ว่า เป็นประเทศที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ด้วย
ายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการแต่งกายชุดผ้าไหมของไทย ในการพบปะกับผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ ว่า ถือโอกาสนำภูมิปัญญาของคนไทย ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจนั้น แสดงต่อต่างชาติ ให้ได้เห็นความงดงามอีกด้วย
