“นายกฯยิ่งลักษณ์” จ้อสดข้ามทวีปแจงผลการเยือนเยอรมัน ฝรั่งเศส เผยต่างชาติชมรัฐบาลไทยเป็นประชาธิปไตย อ้างสวมผ้าไหมหวังให้ต่างชาติเห็นความเป็นเอกลักษณ์ของไทย เพื่อความภาคภูมิใจของคนในชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (21 ก.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จัดรายการสด"รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน" ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยมี น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดำเนินรายการ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงการเยือนประเทศเยอรมันและฝรั่งเศสว่า การเลือกเดินทางเยือนประเทศในแถบยุโรปเนื่องจากประเทศไทยได้เฝ้าติดตามปัญหาเศรษฐกิจยุโรป จึงได้เดินทางมาเพื่อติดตามสถานการณ์ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสในการสานสัมพันธ์ เพื่อร่วมมือช่วยกันพัฒนาซึ่งก็มีความเห็นร่วมกันในการพัฒนาทางด้านการศึกษา พลังงาน และทางด้านเกษตรกรรม เพื่อส่งออกในยุโรปมากขึ้น
“เยอรมันถือได้ว่าเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ในประเทศยุโรปของไทย จึงเป็นอีกหนึ่งเวทีเพื่อเปิดโอกาสได้ชี้แจงพร้อมทั้งขอความร่วมมือในเรื่องต่าง ๆ และสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนด้วย โดยทางฝั่งยุโรปให้ความสำคัญแก่รัฐบาลไทยที่มาจากระบอบประชาธิปไตย และให้ความสำคัญในเรื่องเศรษฐกิจอย่างมาก”
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ได้มีการหารือกับผู้นำของประเทศเยอรมัน ทางเยอรมันมีความสนใจความเป็นมาของประเทศไทย การลงทุนของประเทศ ตรงนี้จึงต้องเร่งสร้างความร่วมมือ และเรื่องการลงทุน โดยเฉพาะพื้นฐานโครงสร้างทางด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน อีกทั้งเยอรมันให้ความสนใจเศรษฐกิจสีเขียว เรื่องพลังงานทดแทน ซึ่งตรงกับสิ่งที่ประเทศไทยต้องการพัฒนาในขณะนี้
โดยการเดินทางในครั้งนี้ยังมีนักธุรกิจร่วมแลกเปลี่ยน 73 ท่าน มาพบกันเพื่อพูดคุยในเรื่องการศึกษา และเทคโนโลยี รวมถึงสิ่งทอจะเริ่มที่ฝรั่งเศส ซึ่งจากการแลกเปลี่ยนนักธุรกิจทั้ง 2 ประเทศพอใจ และยังได้เห็นว่าประเทศไทยเป็นจุดที่น่าสนใจ เพราะเป็นประตูสู่อาเซียนในเรื่องการลงทุนอย่างมาก
ส่วนการเดินทางไปเยือนฝรั่งเศสนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ได้พบประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศส ได้มีความร่วมมือกันด้านการศึกษา ด้านพลังงาน และถือได้ว่าฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งผู้นำแฟชั่น ตรงนี้จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ อย่างผ้าไทย ที่เป็นภูมิปัญญาของคนไทย และมีเอกลักษณ์ความเป็นไทย เพื่อนำสู่เวทีโลก พร้อมทั้ง ร่วมมือเรื่องอัญมณี ซึ่งนักธุรกิจให้ความสนใจ และยังมีนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก ซึ่งประเทศเยอรมันและฝรั่งเศสชื่นชอบอาหารไทย รัฐบาลจึงสนับสนุนในการต่อยอดความรู้การลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อขยายการลงทุน
"การเดินทางมาเยือนทั้ง 2 ประเทศในครั้งนี้ เรามาในช่วงจังหวะที่ถูกที่ถูกเวลา จากภาวะเศรษฐกิจของยุโรปเพื่อชี้แจงเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุน อีกทั้ง อดใจไม่ได้ที่จะภูมิใจในผ้าไหมไทย และอดใจไม่ได้ที่จะนำมาใส่ เพื่อให้ต่างชาติได้เห็นความเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ความภาคภูมิใจ ร่วมถึงเป็นการเปิดโอกาสให้ประเทศไทย เพื่อให้ผ้าไหมไทยเป็นที่ชื่นชอบ"