“บุญทรง” ปัดมีบริษัท 2,100 แห่งจ่อพังพาบจากวิกฤตยูโร ยันอุตสาหกรรมกำลังฟื้นตัว โดยเฉพาะสินค้าจมน้ำอย่างยานยนต์ เครื่องไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ การส่งออกเริ่มเป็นบวกแล้ว
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรณีมีข่าวที่อาจมีบริษัทในไทยมากถึง 2,100 แห่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรปในครั้งนี้จนถึงขั้นอาจต้องล้มเลิกกิจการนั้น ปัญหาไม่น่าจะรุนแรงอย่างที่เป็นข่าว เพราะอุตสาหกรรมที่น่าเป็นห่วงอย่างอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือยานยนต์และส่วนประกอบ ก็ฟื้นตัวจากน้ำท่วมกลับมาผลิตและส่งออกได้แล้ว ซึ่งในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ปีนี้มูลค่าการส่งออกสินค้าเหล่านี้ขยายตัวเป็นบวกแล้ว
ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาส่งออก และอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ เพื่อให้การส่งออกฟื้นตัว อีกทั้งในวันที่ 30 มิ.ย.นี้กระทรวงฯ จะจัดเวิร์กชอปการส่งออก โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อร่วมกันหามาตรการแก้ไข และช่วยผู้ส่งออกด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่มีการระบุว่าจะมีบริษัทมากถึง 2,100 แห่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตยูโร เนื่องจากมีการพูดคุยกันในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ โดยหารือถึงผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่มีผู้ประกอบการในระบบมากถึง 2,100 แห่งที่อาจได้รับผลกระทบ เพราะตลาดส่งออกหลักกว่า 45% อยู่ในยุโรป ไม่ได้หมายถึงผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอื่นๆ ส่วนที่เป็นข่าวอาจจะเกิดจากความคลาดเคลื่อนหรือการสื่อสารที่ผิดมากกว่า
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรณีมีข่าวที่อาจมีบริษัทในไทยมากถึง 2,100 แห่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรปในครั้งนี้จนถึงขั้นอาจต้องล้มเลิกกิจการนั้น ปัญหาไม่น่าจะรุนแรงอย่างที่เป็นข่าว เพราะอุตสาหกรรมที่น่าเป็นห่วงอย่างอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือยานยนต์และส่วนประกอบ ก็ฟื้นตัวจากน้ำท่วมกลับมาผลิตและส่งออกได้แล้ว ซึ่งในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ปีนี้มูลค่าการส่งออกสินค้าเหล่านี้ขยายตัวเป็นบวกแล้ว
ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาส่งออก และอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ เพื่อให้การส่งออกฟื้นตัว อีกทั้งในวันที่ 30 มิ.ย.นี้กระทรวงฯ จะจัดเวิร์กชอปการส่งออก โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อร่วมกันหามาตรการแก้ไข และช่วยผู้ส่งออกด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่มีการระบุว่าจะมีบริษัทมากถึง 2,100 แห่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตยูโร เนื่องจากมีการพูดคุยกันในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ โดยหารือถึงผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่มีผู้ประกอบการในระบบมากถึง 2,100 แห่งที่อาจได้รับผลกระทบ เพราะตลาดส่งออกหลักกว่า 45% อยู่ในยุโรป ไม่ได้หมายถึงผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอื่นๆ ส่วนที่เป็นข่าวอาจจะเกิดจากความคลาดเคลื่อนหรือการสื่อสารที่ผิดมากกว่า