ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวในเวทีเสวนา หัวข้อ "เปิดความจริงสัญญาเดินรถไฟฟ้า กทม.30 ปี" ซึ่งกรุงเทพมหานครจัดขึ้นเพื่อตีแผ่ความจริงทุกมิติ กรณีตัดสินใจให้บริษัท บีทีเอส เป็นผู้ได้รับสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้า กทม.ระยะยาว จำนวน 30 ปี ก่อนที่คณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษจะนำเรื่องเข้าพิจารณาอีกครั้ง โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยืนยันว่า การต่อสัญญาการเดินรถไฟฟ้าไม่ใช่เป็นการทิ้งทวนตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. แต่มีการศึกษารายละเอียดมาเป็นเวลานาน บนพื้นฐานผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก จึงไม่เกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ย้ำว่า การว่าจ้างเดินรถไฟฟ้าในระยะยาว เป็นการช่วยลดงบประมาณการบริหารบีทีเอสได้กว่า 6,000 ล้านบาท ส่งผลให้กรุงเทพมหานครมีรายได้เพิ่มขึ้น เพื่อนำมาพัฒนาในโครงการต่างๆ ระยะยาว เพราะที่ผ่านมากรุงเทพมหานครถูกตัดงบประมาณจากทุกรัฐบาล จึงจำเป็นต้องหารายได้เพิ่ม
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ย้ำด้วยว่า ที่ผ่านมามีกระแสข่าวมาตลอดว่ารัฐบาลจะนำบีทีเอสไปบริหารเอง ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลกระทบต่อประชาชน เนื่องจากการบริหารระบบขนส่งมวลชนต้องวางแผนระยะยาว แต่หากเป็นกรุงเทพมหานครบริหารจัดการเอง ไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้ว่าฯ ก็มีอำนาจในการกำหนดราคาค่าโดยสารได้
พร้อมกันนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยังขอบคุณกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่เลื่อนการพิจารณากรณีสัญญาบีทีเอส เป็นคดีพิเศษ ออกไปอีก 1 เดือน เพื่อศึกษารายละเอียดให้ถี่ถ้วน
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ย้ำว่า การว่าจ้างเดินรถไฟฟ้าในระยะยาว เป็นการช่วยลดงบประมาณการบริหารบีทีเอสได้กว่า 6,000 ล้านบาท ส่งผลให้กรุงเทพมหานครมีรายได้เพิ่มขึ้น เพื่อนำมาพัฒนาในโครงการต่างๆ ระยะยาว เพราะที่ผ่านมากรุงเทพมหานครถูกตัดงบประมาณจากทุกรัฐบาล จึงจำเป็นต้องหารายได้เพิ่ม
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ย้ำด้วยว่า ที่ผ่านมามีกระแสข่าวมาตลอดว่ารัฐบาลจะนำบีทีเอสไปบริหารเอง ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลกระทบต่อประชาชน เนื่องจากการบริหารระบบขนส่งมวลชนต้องวางแผนระยะยาว แต่หากเป็นกรุงเทพมหานครบริหารจัดการเอง ไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้ว่าฯ ก็มีอำนาจในการกำหนดราคาค่าโดยสารได้
พร้อมกันนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยังขอบคุณกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่เลื่อนการพิจารณากรณีสัญญาบีทีเอส เป็นคดีพิเศษ ออกไปอีก 1 เดือน เพื่อศึกษารายละเอียดให้ถี่ถ้วน