สถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจยุโรปมีท่าทีขยายความรุนแรงเพิ่มขึ้น ล่าสุด ประเทศไซปรัสขอความช่วยเหลือด้านการเงินต่อจาก 4 ประเทศ ได้แก่ กรีซ ไอร์แลนด์ โปรตุเกส และสเปน ทำให้คาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบตามไปด้วย คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ 9 กระทรวง ทุกสัปดาห์ เพื่อติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรป ซึ่งจะหารือและเสนอแผนรองรับหากเกิดผลกระทบ โดยมี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช.กล่าวหลังการประชุม สศช.ว่า จะหารือกระทรวงพาณิชย์ เพื่อติดตามสถานการณ์ด้านการส่งออกเป็นการเฉพาะ ว่าจะกระทบกับกลุ่มใดบ้าง เพราะปัญหาการลดอันดับเครดิต 5 ประเทศยุโรป และ 15 สถาบันการเงินในยุโรป มีผลต่อเนื่องเศรษฐกิจทั่วโลก และจะกระทบไทยบ้าง เนื่องจากมีการค้ากับยุโรป ร้อยละ 10 แต่ยืนยันว่า ไม่จำเป็นต้องออกมาตรการเสริมรับมือ และเชื่อว่าตัวเลขส่งออกทั้งปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 15 ตามเป้าหมาย
ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ กระทรวงพาณิชย์เรียกประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือ ทูตพาณิชย์ 65 แห่งทั่วโลก เพื่อเสนอรายงานสถานการณ์ที่อาจจะกระทบกับเศรษฐกิจไทย ทั้งภาคการค้าและการเงิน รวมทั้งข้อเสนอการรับมือมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีของประเทศต่างๆ และการหาช่องทางในการขยายตลาดใหม่
ในวันพรุ่งนี้ นายกิตติรัตน์จะเรียกหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงการคลังหารือเพื่อรับมือปัญหาวิกฤตยุโรป โดยข้อเสนอและแผนการรับมือ จากทั้งกระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ จะนำเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการ ในวันเสาร์นี้ เพื่อขับเคลื่อนการส่งออกขยายตัวตามเป้าหมายที่ร้อยละ 15
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช.กล่าวหลังการประชุม สศช.ว่า จะหารือกระทรวงพาณิชย์ เพื่อติดตามสถานการณ์ด้านการส่งออกเป็นการเฉพาะ ว่าจะกระทบกับกลุ่มใดบ้าง เพราะปัญหาการลดอันดับเครดิต 5 ประเทศยุโรป และ 15 สถาบันการเงินในยุโรป มีผลต่อเนื่องเศรษฐกิจทั่วโลก และจะกระทบไทยบ้าง เนื่องจากมีการค้ากับยุโรป ร้อยละ 10 แต่ยืนยันว่า ไม่จำเป็นต้องออกมาตรการเสริมรับมือ และเชื่อว่าตัวเลขส่งออกทั้งปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 15 ตามเป้าหมาย
ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ กระทรวงพาณิชย์เรียกประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือ ทูตพาณิชย์ 65 แห่งทั่วโลก เพื่อเสนอรายงานสถานการณ์ที่อาจจะกระทบกับเศรษฐกิจไทย ทั้งภาคการค้าและการเงิน รวมทั้งข้อเสนอการรับมือมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีของประเทศต่างๆ และการหาช่องทางในการขยายตลาดใหม่
ในวันพรุ่งนี้ นายกิตติรัตน์จะเรียกหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงการคลังหารือเพื่อรับมือปัญหาวิกฤตยุโรป โดยข้อเสนอและแผนการรับมือ จากทั้งกระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ จะนำเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการ ในวันเสาร์นี้ เพื่อขับเคลื่อนการส่งออกขยายตัวตามเป้าหมายที่ร้อยละ 15
