บรรดาผู้นำของกลุ่ม จี-20 ประกาศภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมเป็นเวลา 2 วันเมื่อวันอังคาร (19) ว่าจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและฟื้นความเชื่อมั่น พร้อมให้การสนับสนุนแผนการยกเครื่องยูโรโซน หลังผู้นำยุโรปให้สัญญาเดินหน้าการผนวกรวมภาคการธนาคาร เพื่อตัดตอนวงจรอุบาทว์ในวิกฤตหนี้สาธารณะ
“ที่ โลสกาโบส แห่งนี้ เมล็ดพันธุ์แห่งการฟื้นตัวของยุโรปถูกนำไปเพาะปลูกแล้ว” คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวในวันสุดท้ายของการประชุมผู้นำกลุ่ม 20 ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก (จี-20) ที่เมืองโลสกาโบส ประเทศเม็กซิโก และเสริมว่าโลกกำลังเฝ้ารอซัมมิตยุโรปในสัปดาห์หน้าด้วยความหวังว่า จะมีการเปิดเผยมาตรการที่เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
สำหรับประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ บอกว่า ผู้นำยุโรปรู้สึกถึงความจำเป็นเร่งด่วน และรู้ว่าจำเป็นต้องดำเนินการขั้นตอนใดเพื่อยุติการลุกลามของวิกฤตหนี้
ส่วน ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังแดนอินทรีสำทับว่า กรอบโครงสหภาพการคลังและการธนาคารที่เข้มแข็งขึ้นจะช่วยส่งเสริมยูโร และฟื้นการเติบโตของเศรษฐกิจยุโรป รวมทั้งทำให้ต้นทุนการกู้ยืมในประเทศที่มีหนี้สูงขยับลดลง
ขณะที่ในแถลงการณ์ร่วมภายหลังสิ้นสุดซัมมิตจี-20 คราวนี้ ระบุว่าจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและฟื้นความเชื่อมั่น โดยที่หากภาวะเศรษฐกิจถดถอยลง ประเทศที่มีสภาพคล่องดีกว่าจะร่วมกันและดำเนินนโยบายทางการคลังเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ โดยอเมริกานั้นรับปากว่า จะป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศในช่วงต้นปีหน้าที่มาตรการลดภาษีจะสิ้นสุดลงและแผนการลดการใช้จ่ายเริ่มมีผลบังคับใช้
ทางด้านผู้นำชาติเศรษฐกิจชั้นนำของยุโรป บอกว่าเห็นพ้องกันพิจารณาขั้นตอนรูปธรรมที่นำไปสู่โครงสร้างทางการเงินที่เป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น โดยโครงสร้างดังกล่าวจะครอบคลุมการกำกับดูแล การแก้ปัญหาและการเพิ่มทุนธนาคาร รวมทั้งการรับประกันเงินฝาก และหน่วยงานส่วนกลางที่รับผิดชอบการสั่งปิดแบงก์ที่มีปัญหา
“ที่ โลสกาโบส แห่งนี้ เมล็ดพันธุ์แห่งการฟื้นตัวของยุโรปถูกนำไปเพาะปลูกแล้ว” คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวในวันสุดท้ายของการประชุมผู้นำกลุ่ม 20 ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก (จี-20) ที่เมืองโลสกาโบส ประเทศเม็กซิโก และเสริมว่าโลกกำลังเฝ้ารอซัมมิตยุโรปในสัปดาห์หน้าด้วยความหวังว่า จะมีการเปิดเผยมาตรการที่เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
สำหรับประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ บอกว่า ผู้นำยุโรปรู้สึกถึงความจำเป็นเร่งด่วน และรู้ว่าจำเป็นต้องดำเนินการขั้นตอนใดเพื่อยุติการลุกลามของวิกฤตหนี้
ส่วน ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังแดนอินทรีสำทับว่า กรอบโครงสหภาพการคลังและการธนาคารที่เข้มแข็งขึ้นจะช่วยส่งเสริมยูโร และฟื้นการเติบโตของเศรษฐกิจยุโรป รวมทั้งทำให้ต้นทุนการกู้ยืมในประเทศที่มีหนี้สูงขยับลดลง
ขณะที่ในแถลงการณ์ร่วมภายหลังสิ้นสุดซัมมิตจี-20 คราวนี้ ระบุว่าจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและฟื้นความเชื่อมั่น โดยที่หากภาวะเศรษฐกิจถดถอยลง ประเทศที่มีสภาพคล่องดีกว่าจะร่วมกันและดำเนินนโยบายทางการคลังเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ โดยอเมริกานั้นรับปากว่า จะป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศในช่วงต้นปีหน้าที่มาตรการลดภาษีจะสิ้นสุดลงและแผนการลดการใช้จ่ายเริ่มมีผลบังคับใช้
ทางด้านผู้นำชาติเศรษฐกิจชั้นนำของยุโรป บอกว่าเห็นพ้องกันพิจารณาขั้นตอนรูปธรรมที่นำไปสู่โครงสร้างทางการเงินที่เป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น โดยโครงสร้างดังกล่าวจะครอบคลุมการกำกับดูแล การแก้ปัญหาและการเพิ่มทุนธนาคาร รวมทั้งการรับประกันเงินฝาก และหน่วยงานส่วนกลางที่รับผิดชอบการสั่งปิดแบงก์ที่มีปัญหา
