นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และนายทนง พิทยะ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แสดงความเห็นในงานสัมมนาวิชาการประจำปี 2555 หัวข้อ "นวัตกรรมทางรอดธุรกิจไทย" ซึ่งจัดโดยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ แสดงความเป็นห่วงประเทศไทยหลังเปิดประชาคมเศษฐกิจอาเซียน (AEC) ว่า ไทยจะไม่สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ เนื่องจากมีจุดอ่อนหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างภาษี กฎระเบียบการส่งเสริมการลงทุน ระบบศุลกากร และระเบียบราชการที่ล้าสมัย ซึ่งจะเป็นข้อจำกัดในการแข่งขันของไทย เพราะขณะนี้ประเทศอื่นๆ ในอาเซียนแทบจะไม่มีภาษีในการส่งออก-นำเข้าแล้ว อีกทั้งไทยยังอยู่ในกลุ่มประเทศที่ขาดการพัฒนาทางด้านนวัตกรรม หลังจากไม่มียุทธศาสตร์สนับสนุนที่ดีพอ ซึ่งจากการสำรวจไทยอยู่ถึงอันดับที่ 41 ขณะที่สิงคโปร์ติดอันดับ 5 ของโลก ดังนั้น ไทยจะต้องนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้ในการพัฒนาธุรกิจ
นอกจากนี้ นายทนง ยังได้แสดงความเป็นห่วงด้านการลงทุนของไทย หลังนักลงทุนสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะความกังวลเรื่องปัญหาอุทกภัย ล่าสุด พบว่านักลงทุนที่อยู่ในไทยเริ่มหันไปมองประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะพม่า ซึ่งรวมถึงเวียดนาม ก็จี้ไทยมาติดๆ หากไทยยังนิ่งเฉย จะเกิดปัญหาด้านการลงทุนได้ในอนาคต
นอกจากนี้ นายทนง ยังได้แสดงความเป็นห่วงด้านการลงทุนของไทย หลังนักลงทุนสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะความกังวลเรื่องปัญหาอุทกภัย ล่าสุด พบว่านักลงทุนที่อยู่ในไทยเริ่มหันไปมองประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะพม่า ซึ่งรวมถึงเวียดนาม ก็จี้ไทยมาติดๆ หากไทยยังนิ่งเฉย จะเกิดปัญหาด้านการลงทุนได้ในอนาคต
