นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในการปาฐกถาพิเศษ เรื่องยุทธศาสตร์ของประเทศไทย ภายใต้เศรษฐกิจโลกและการเข้าสู่เออีซี หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ระบุว่า ปัญหาสำคัญที่จะส่งผลกระทบมากที่สุดในอนาคตคือ ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีผลต่อต้นทุนราคาสินค้าโดยตรง และภาวะเศรษฐกิจของยุโรปและสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะใช้เวลาฟื้นตัว 2-3 ปี ดังนั้นรัฐต้องร่วมมือกับเอกชนหาตลาดใหม่ในการส่งออก รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนด้วยการวางนโยบายที่ชัดเจน ไม่ให้เกิดเหมือนกรณีการลงทุนในมาบตาพุดซ้ำอีก พร้อมเห็นว่ารัฐไม่จำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพราะการเติบโตในอัตราร้อยละ 4-5 นับว่าเพียงพอจะต้องเปลี่ยนและปรับแนวคิดในการบริหารประเทศ จากการส่งออกมาเป็นการบริโภคในประเทศให้มากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในป 2558 มองว่า รัฐบาลและเอกชนต้องสร้างสรรค์ตัวเอง และต้องเผชิญการแข่งขันอย่างเสรีจากอาเซียน รวมถึงประเทศคู่ค้าไม่ว่าจะเป็นจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และอินเดีย โดยผู้ประกอบการต้องเปลี่ยนมุมมองธุรกิจในกรอบเดิม และเน้นการเดินทางไปพบปะคู่ค้าในประเทศอาเซียนมากขึ้น