นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ในประเทศอิหร่าน ขณะนี้ว่า ท่าทีที่แข็งกร้าวของอิหร่าน ในการงดส่งออกน้ำมันในทันที แต่ได้รับการสนับสนุนจากซาอุดีอาระเบีย ในเรื่องของการส่งออกทดแทน อาจส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ให้ปรับตัวสูงขึ้นไม่มากนัก เฉลี่ย 5 - 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่หากมีการปิดช่องแคบฮอร์มุซ และอิหร่านประกาศทำสงคราม จะส่งผลต่อราคาน้ำมันให้พุ่งสูงขึ้น จากความกังวลของตลาดโลกในทันที และอาจสูงถึง 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากกระทบต่อการขนส่งน้ำมัน
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าว ยังไม่มีความชัดเจน จึงต้องมีการติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด เพราะจะกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งในสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา รวมทั้งประเทศจีน และญี่ปุ่น ซึ่งเศรษฐกิจยังไม่ถือว่าฟื้นตัวเต็มที่ และอาจส่งผลต่อการท่องเที่ยว รวมทั้งการส่งออกของประเทศไทยด้วย
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าว ยังไม่มีความชัดเจน จึงต้องมีการติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด เพราะจะกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งในสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา รวมทั้งประเทศจีน และญี่ปุ่น ซึ่งเศรษฐกิจยังไม่ถือว่าฟื้นตัวเต็มที่ และอาจส่งผลต่อการท่องเที่ยว รวมทั้งการส่งออกของประเทศไทยด้วย