เอเอฟพี - เพนตากอนเผย เรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส อับบราฮัม ลินคอล์นของสหรัฐฯ แล่นผ่านช่องแคบฮอร์มุซ และอยู่ในอ่าวเปอร์เซียแล้ว หลังอิหร่านขู่ปิดช่องแคบอันเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันสำคัญแห่งนี้ เพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของทางวอชิงตัน
นาวาเอกจอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอนแจ้งทางอีเมล์ว่า เรือยูเอสเอสอับราฮัม ลินคอล์นเดินทางผ่านช่องแคบฮอร์มุซ อย่างเป็นปกติ และกิจวัตร เพื่อปฏิบัติการด้านความมั่นคงทางน้ำตามกำหนดแล้ว
"การเดินทางผ่านเสร็จสิ้นตามที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ และไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น" เขาระบุ
นอกจากนี้ เรือลำดังกล่าว ซึ่งบรรทุกเครื่องบิน และเฮลิคอปเตอร์ร่วม 80 ลำ ยังได้รับการคุ้มกันโดยเรือลาดตระเวนติดอาวุธนำวิถี ยูเอสเอส เคป เซนต์จอร์จ และเรือพิฆาตอีก 2 ลำ
ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมของอังกฤษประกาศว่า เรือรบฟริเกตของกองทัพเรืออังกฤษ และเรือของฝรั่งเศสอีกลำหนึ่ง ได้เข้าร่วมกองเรือของสหรัฐฯ ที่แล่นผ่านช่องแคบยุทธศาสตร์ดังกล่าวด้วย
ขณะที่เรือของชาติพันธมิตรมักเข้าร่วมในการฝึกซ้อมรบทางน้ำของสหรัฐฯ อยู่เป็นประจำ และบางครั้งก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือเล็ก การเข้าร่วมกองเรือยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์นของอังกฤษ และฝรั่งเศสจึงเหมือนเป็นข้อความที่ส่งถึงเตหะรานว่าชาติตะวันตกจะไม่ยอมให้ปิดช่องแคบฮอร์มุซ
กองทัพอิหร่าน และผู้นำทางการเมืองเตือนว่า พวกเขาอาจปิดช่องแคบ ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านสำคัญในการขนส่งน้ำมันแห่งนี้ หากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกต่อโครงการนิวเคลียร์ต้องสงสัยทำให้การส่งออกน้ำมันของประเทศต้องหยุดชะงัก
นอกจากนี้ กองทัพเรือของทางเตหะรานยังเตือนว่า จะตอบโต้หากสหรัฐฯ พยายามส่งเรือบรรทุกเครื่องบินไปยังเส้นทางดังกล่าว
ด้านลีออน ปาเนตตา รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวย้ำหลายครั้งแล้วว่า การปิดช่องแคบดังกล่าวถือเป็นการข้ามเส้นแดง ซึ่งเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำจากทั้งหมด 11 ลำของสหรัฐฯ ประจำการอยู่ในภูมิภาคนั้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น อิหร่านก็พยายามที่จะผ่อนคลายสถานการณ์ตึงเครียด โดยอาลี อักบาร์ ซาเลฮี รัฐมนตรีต่างประเทศออกมาบอกว่า เตหะรานไม่เคยพยายามที่จะปิดช่องแคบดังกล่าวเลย และอิหร่านต้องการสันติภาพ และเสถียรภาพในภูมิภาคเท่านั้น