นายบรรยงค์ อัมพรตระกูล ประธานชมรมรถร่วม ขสมก.กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการรถร่วม บขส. รถร่วม ขสมก.และรถบรรทุกบางส่วน เตรียมคัดค้านการขึ้นราคาก๊าซ NGV อีกกิโลกรัมละ 6 บาท ในปีหน้า เช่นเดียวกับผู้ประกอบการรถแท็กซี่ ที่ออกมาแสดงจุดยืนก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ต้องการให้รัฐบาลชี้แจงต้นทุนที่แท้จริงของก๊าซ NGV เนื่องจากเป็นทรัพย์สมบัติของประเทศ และก่อนหน้านี้ได้ขึ้นราคาค่าขนส่งก๊าซในพื้นที่ห่างไกลแล้ว ซึ่งผู้ประกอบการดังกล่าวจะหารือเรื่องนี้กันอีกครั้งในวันจันทร์นี้ ก่อนที่จะนำเสนอให้รัฐบาลในวันถัดไป และหากไม่รับคำตอบที่น่าพอใจ จะหยุดให้บริการทันที
นายบรรยงค์ กล่าวเสนอว่า รัฐบาลควรขึ้นราคา NGV เฉพาะพื้นที่ห่างไกล เนื่องจากอยู่ห่างจากแนวท่อก๊าซ จึงมีค่าขนส่งที่สูง ขณะที่พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นแนวท่อก๊าซอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอ และผู้ประกอบการจะผลักภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปยังผู้ใช้บริการอย่างแน่นอน
โดยปัจจุบันรถเมล์ 1 คัน จะใช้ก๊าซ NGV วันละ 1,500 บาท ซึ่งหากขึ้นอีกกิโลกรัมละ 6 บาท ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มเป็น 2,500 บาท
นอกจากนี้ การรอเติมก๊าซที่ต้องใช้ระยะเวลานาน ทำให้เกิดทุนแฝงไม่นับรวมกับการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ที่แพงกว่ารถยนต์ใช้น้ำมัน
ปัจจุบันรถโดยสารสาธารณะที่ใช้ก๊าซ NGV และในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล หากเป็นรถร่วม ขสมก.จะมีจำนวน 4,900 คัน รถสองแถว 4,000 คัน รถร่วม บขส.อีก 20,000 คัน
ทั้งนี้ ต้องการให้รัฐบาลชี้แจงต้นทุนที่แท้จริงของก๊าซ NGV เนื่องจากเป็นทรัพย์สมบัติของประเทศ และก่อนหน้านี้ได้ขึ้นราคาค่าขนส่งก๊าซในพื้นที่ห่างไกลแล้ว ซึ่งผู้ประกอบการดังกล่าวจะหารือเรื่องนี้กันอีกครั้งในวันจันทร์นี้ ก่อนที่จะนำเสนอให้รัฐบาลในวันถัดไป และหากไม่รับคำตอบที่น่าพอใจ จะหยุดให้บริการทันที
นายบรรยงค์ กล่าวเสนอว่า รัฐบาลควรขึ้นราคา NGV เฉพาะพื้นที่ห่างไกล เนื่องจากอยู่ห่างจากแนวท่อก๊าซ จึงมีค่าขนส่งที่สูง ขณะที่พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นแนวท่อก๊าซอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอ และผู้ประกอบการจะผลักภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปยังผู้ใช้บริการอย่างแน่นอน
โดยปัจจุบันรถเมล์ 1 คัน จะใช้ก๊าซ NGV วันละ 1,500 บาท ซึ่งหากขึ้นอีกกิโลกรัมละ 6 บาท ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มเป็น 2,500 บาท
นอกจากนี้ การรอเติมก๊าซที่ต้องใช้ระยะเวลานาน ทำให้เกิดทุนแฝงไม่นับรวมกับการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ที่แพงกว่ารถยนต์ใช้น้ำมัน
ปัจจุบันรถโดยสารสาธารณะที่ใช้ก๊าซ NGV และในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล หากเป็นรถร่วม ขสมก.จะมีจำนวน 4,900 คัน รถสองแถว 4,000 คัน รถร่วม บขส.อีก 20,000 คัน
