นายวิทยา เปรมจิตร์ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมบริการเอกชน กล่าวถึงการขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีจากกิโลกรัมละ 8.50 บาท เป็น 14.50 บาท ในปีหน้า โดยระบุว่า หากรัฐบาลไม่มีมาตรการออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก.จะขอกรมการขนส่งทางบกขึ้นราคาค่าโดยสารอีก 2 บาท จากปัจจุบันเก็บที่ 8 บาท ส่วนรถปรับอากาศจะเพิ่มอีกระยะละ 2 บาท ขณะที่บางรายไม่มีเงินเติมก๊าซจะต้องหยุดให้บริการ เพราะปัจจุบันรถร่วม ขสมก.ทั้ง 3,600 คัน ได้เปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงเอ็นจีวีหมดแล้ว
ทั้งนี้ ภายในสัปดาห์นี้ ตัวแทนผู้ประกอบการรถโดยสารและสมาคมขนส่งจะยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลทบทวนการขึ้นราคาก๊าซ โดยปัจจุบันรถร้อนมีค่าเชื้อเพลิงเดือนละ 30,000 - 40,000 บาทต่อคัน ส่วนรถปรับอากาศอยู่ที่ 50,000 บาทต่อคัน นอกจากนี้ อัตราสิ้นเปลืองสูงกว่าน้ำมันดีเซลถึงร้อยละ 40 เช่นเดียวกับค่าซ่อมบำรุงที่สูงกว่า และยังเสียเวลาเติมเชื้อเพลิงวันละ 3-4 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ภายในสัปดาห์นี้ ตัวแทนผู้ประกอบการรถโดยสารและสมาคมขนส่งจะยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลทบทวนการขึ้นราคาก๊าซ โดยปัจจุบันรถร้อนมีค่าเชื้อเพลิงเดือนละ 30,000 - 40,000 บาทต่อคัน ส่วนรถปรับอากาศอยู่ที่ 50,000 บาทต่อคัน นอกจากนี้ อัตราสิ้นเปลืองสูงกว่าน้ำมันดีเซลถึงร้อยละ 40 เช่นเดียวกับค่าซ่อมบำรุงที่สูงกว่า และยังเสียเวลาเติมเชื้อเพลิงวันละ 3-4 ชั่วโมง