นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) กล่าวในการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "รวมพลังก้าวผ่านวิกฤตอุทกภัย สร้างอนาคตเศรษฐกิจไทย" ในการประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 29 ที่ จ.ระยอง ว่า กยอ.ได้มีการกล่าวย้ำและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้บริหารประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่น และคนไทยทั่วประเทศ ว่า ในช่วง 12 เดือนหลังจากนี้ไป ประเทศไทยจะไม่เกิดภาวะน้ำท่วมโดยเด็ดขาด ซึ่งได้มีการวางแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาวต่อการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการโดยทันที คือการขุดลอกคูคลอง การปรับปรุงประตูระบายน้ำทุกบานให้มีความเป็นมาตรฐานสากล รวมถึงจะต้องมีการซักซ้อมอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง พร้อมทั้งมีการประเมินผล
ขณะเดียวกัน จะต้องมีการจัดหาเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เพื่อให้ทุกพื้นที่นำไปใช้ได้อย่างเพียงพอ และต้องนำระบบคอมพิวเตอร์มาทดแทนการใช้บุคลากรดูแลประตูระบายน้ำ ซึ่งรัฐบาลจะต้องนำกฎหมายที่มีอยู่มาดูแล เพื่อให้การปรับปรุงประสิทธิภาพประตูระบายน้ำ หรือการรุกล้ำพื้นที่โดยการสร้างบ้าน หรือยอมจ่ายค่าปรับในการขวางทางน้ำ
อย่างไรก็ตาม นิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วม จะต้องเร่งสร้างแนวเขื่อนป้องกัน ต้องมีแผนป้องกันน้ำ ทั้งในพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วม และที่ไม่เกิดน้ำท่วม โดยนิคมอุตสาหกรรมสามารถขอสินเชื่อผ่อนปรนเพื่อมาสร้างแนวป้องกันให้เกิดมาตรฐานสากล มีศูนย์ข้อมูลด้านน้ำเป็นการเฉพาะ เพื่อเป็นศูนย์แจ้งเตือนประชาชนในเส้นทางน้ำ
ส่วนแผนระยะยาว ไทยจะต้องเร่งลงทุนเกี่ยวกับการจัดระบบลุ่มน้ำในพื้นที่ต่างๆ ให้มีความสมดุล เพื่อให้น้ำมีเพียงพอต่อการจัดระบบน้ำ ทั้งภาคการเกษตร และอุตสาหกรรม
ขณะเดียวกัน จะต้องมีการจัดหาเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เพื่อให้ทุกพื้นที่นำไปใช้ได้อย่างเพียงพอ และต้องนำระบบคอมพิวเตอร์มาทดแทนการใช้บุคลากรดูแลประตูระบายน้ำ ซึ่งรัฐบาลจะต้องนำกฎหมายที่มีอยู่มาดูแล เพื่อให้การปรับปรุงประสิทธิภาพประตูระบายน้ำ หรือการรุกล้ำพื้นที่โดยการสร้างบ้าน หรือยอมจ่ายค่าปรับในการขวางทางน้ำ
อย่างไรก็ตาม นิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วม จะต้องเร่งสร้างแนวเขื่อนป้องกัน ต้องมีแผนป้องกันน้ำ ทั้งในพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วม และที่ไม่เกิดน้ำท่วม โดยนิคมอุตสาหกรรมสามารถขอสินเชื่อผ่อนปรนเพื่อมาสร้างแนวป้องกันให้เกิดมาตรฐานสากล มีศูนย์ข้อมูลด้านน้ำเป็นการเฉพาะ เพื่อเป็นศูนย์แจ้งเตือนประชาชนในเส้นทางน้ำ
ส่วนแผนระยะยาว ไทยจะต้องเร่งลงทุนเกี่ยวกับการจัดระบบลุ่มน้ำในพื้นที่ต่างๆ ให้มีความสมดุล เพื่อให้น้ำมีเพียงพอต่อการจัดระบบน้ำ ทั้งภาคการเกษตร และอุตสาหกรรม
