นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่บอร์ด สปส.ได้มีมติให้ลดการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุทกภัยในช่วงวิกฤตที่ผ่านมา ส่งผลให้จำนวนเงินสมทบของปี 2555 ลดลงไปประมาณ 31,060 ล้านบาท แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของผู้ประกันตน โดยเฉพาะ 4 กรณี คือ เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตายและคลอดบุตร เนื่องจากกองทุน สปส.มีเงินสะสมที่เหลือจากบริหารจัดการในช่วงการดำเนินงานที่ผ่านมาตลอด 20 ปี อยู่ประมาณ 8.6 หมื่นล้านบาท โดยสามารถนำไปชดเชยยอดเงินที่หายไปจากการลดเงินสมทบครั้งนี้ได้ ซึ่งเมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ การเก็บเงินสมทบทั้งลูกจ้างนายจ้างและรัฐบาลก็สามารถเก็บได้เต็มระบบเช่นเดิม ส่วนเงินออมชราภาพนั้น ไม่ทำให้ยอดเงินสะสมลดลง จากปกติเก็บได้ปีละ 8 หมื่นล้านบาท แต่ในปี 2555 จะเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนนี้เพิ่มอีก 2,000 ล้านบาท
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวอีกว่า สาเหตุที่การลดเงินสมทบไม่กระทบกับเงินออมชราภาพ เนื่องจากใน 6 เดือนหลังปี 2555 จะมีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท ทำให้ผู้ประกันตนจ่ายเงินสบทบเพิ่มขึ้น บวกกับรัฐบาลจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนชราภาพและสงเคราะห์บุตรเพิ่มเป็น ร้อยละ 2 จากเดิมจ่ายอยู่ร้อยละ 1
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวอีกว่า สาเหตุที่การลดเงินสมทบไม่กระทบกับเงินออมชราภาพ เนื่องจากใน 6 เดือนหลังปี 2555 จะมีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท ทำให้ผู้ประกันตนจ่ายเงินสบทบเพิ่มขึ้น บวกกับรัฐบาลจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนชราภาพและสงเคราะห์บุตรเพิ่มเป็น ร้อยละ 2 จากเดิมจ่ายอยู่ร้อยละ 1
