นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม หรือ สปส. กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาเงินกองทุนชราภาพ ที่จะเริ่มจ่ายสิทธิประโยชน์จำนวนมากในอีก 3 ปีข้างหน้า อาจทำให้เงินกองทุนนี้หมดอย่างรวดเร็วภายในปี 2600 จนกระทบลูกจ้างที่เพิ่งเข้าทำงานใหม่ ว่า เมื่อเริ่มมีการจ่ายสิทธิประโยชน์ เท่ากับเป็นการเอาเงินอนาคตมาจ่ายก่อน ทำให้ผู้ประกันตนรุ่นใหม่ไม่มีหลักประกันชราภาพเหมือนกับคนรุ่นก่อน
ส่วนสาเหตุที่เงินหมดเร็ว เพราะผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบและรวมกับของนายจ้างร้อยละ 6 ต่อเดือน ในเวลา 15 ปี แต่เมื่อ สปส.จ่ายสิทธิประโยชน์ทดแทนอย่างน้อย 25 ปี หากอายุเฉลี่ยของคนไทย 80 ปี ในอัตราร้อยละ 20 จึงไม่เพียงพอ และต้องมีการปรับปรุงรูปแบบ
เลขาธิการ สปส. กล่าวอีกว่า จะมีการนำสูตรผสมรูปแบบต่างๆ เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด) ในเดือนกันยายนนี้ แต่เชื่อมั่นว่า ต้องมีการทำประชาพิจารณ์จากผู้ประกันตน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขกฎหมาย เช่น การเพิ่มเงินสมทบต้องแก้ไขบัญชีท้ายพระราชบัญญัติประกันสังคม และหากขยายอายุเกษียณออกไป เงินก้อนที่ผู้ประกันตนสะสมไว้นั้น จะตัดเป็นบำเหน็จส่วนหนึ่ง เพื่อให้ผู้ประกันตนเอาไปใช้หนี้ ส่วนที่เหลือให้เอามาคำนวณเป็นบำนาญ และการแก้ไขกฎหมายต้องควรเสร็จภายในต้นปี 2556
ส่วนสาเหตุที่เงินหมดเร็ว เพราะผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบและรวมกับของนายจ้างร้อยละ 6 ต่อเดือน ในเวลา 15 ปี แต่เมื่อ สปส.จ่ายสิทธิประโยชน์ทดแทนอย่างน้อย 25 ปี หากอายุเฉลี่ยของคนไทย 80 ปี ในอัตราร้อยละ 20 จึงไม่เพียงพอ และต้องมีการปรับปรุงรูปแบบ
เลขาธิการ สปส. กล่าวอีกว่า จะมีการนำสูตรผสมรูปแบบต่างๆ เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด) ในเดือนกันยายนนี้ แต่เชื่อมั่นว่า ต้องมีการทำประชาพิจารณ์จากผู้ประกันตน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขกฎหมาย เช่น การเพิ่มเงินสมทบต้องแก้ไขบัญชีท้ายพระราชบัญญัติประกันสังคม และหากขยายอายุเกษียณออกไป เงินก้อนที่ผู้ประกันตนสะสมไว้นั้น จะตัดเป็นบำเหน็จส่วนหนึ่ง เพื่อให้ผู้ประกันตนเอาไปใช้หนี้ ส่วนที่เหลือให้เอามาคำนวณเป็นบำนาญ และการแก้ไขกฎหมายต้องควรเสร็จภายในต้นปี 2556