ปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ข้อสรุปร่อนหนังสือเรียกร้องให้กระทรวงแรงงาน และสาธารณสุข แก้ กม.ยกเว้นเก็บค่ารักษาผู้ประกันตน ปี 45 ชี้ ไม่เป็นธรรมกับผู้ที่ต้องจ่ายเงินสมทบ ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม 2533 ระบุ หากไม่ดำเนินการเตรียมยื่นศาล รธน.
วันนี้ (30 มี.ค.) นายปราโมทย์ โชติมงคล ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า จากการที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับกรณีการจัดเก็บเงินสมทบของสำนักงานประกันสังคมตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 มาตรา 46 ซึ่งถูกร้องว่ามีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 30 มาชี้แจงข้อเท็จจริงนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดิน เห็นว่า พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 กำหนดให้ประชาชนทั่วไปได้รับบริการทางด้านสุขภาพขั้นพื้นฐานโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายนั้น ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับผู้ประกันตนที่ต้องจ่ายเงินสมทบ ตามพ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533
ทั้งนี้ เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันเป็นบริการทางด้านสุขภาพขั้นพื้นฐานเช่นกัน ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย และเป็นการแก้ไขปัญหาความทุกข์ร้อนของผู้ประกันตน จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 32 วรรคสอง แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ.2552 ส่งเรื่องร้องเรียนดังกล่าวให้กระทรวงแรงงาน และ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันเร่งแก้ไขปัญหาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย ก็ให้รีบดำเนินการโดยเร็ว ซี่งหากหน่วยงานไม่ดำเนินการตามข้อเสนอ ผู้ตรวจการแผ่นดินก็จำเป็นต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาต่อไป
วันนี้ (30 มี.ค.) นายปราโมทย์ โชติมงคล ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า จากการที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับกรณีการจัดเก็บเงินสมทบของสำนักงานประกันสังคมตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 มาตรา 46 ซึ่งถูกร้องว่ามีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 30 มาชี้แจงข้อเท็จจริงนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดิน เห็นว่า พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 กำหนดให้ประชาชนทั่วไปได้รับบริการทางด้านสุขภาพขั้นพื้นฐานโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายนั้น ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับผู้ประกันตนที่ต้องจ่ายเงินสมทบ ตามพ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533
ทั้งนี้ เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันเป็นบริการทางด้านสุขภาพขั้นพื้นฐานเช่นกัน ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย และเป็นการแก้ไขปัญหาความทุกข์ร้อนของผู้ประกันตน จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 32 วรรคสอง แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ.2552 ส่งเรื่องร้องเรียนดังกล่าวให้กระทรวงแรงงาน และ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันเร่งแก้ไขปัญหาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย ก็ให้รีบดำเนินการโดยเร็ว ซี่งหากหน่วยงานไม่ดำเนินการตามข้อเสนอ ผู้ตรวจการแผ่นดินก็จำเป็นต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาต่อไป
