นางพิกุล ศรีมหันต์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารไทยพาณิชย์ เชื่อว่า มาตรการลดหย่อนภาษี "บ้านหลังแรก" จะทำให้ความต้องการสินเชื่อบ้านเพิ่มสูงขึ้น และจะส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของสถาบันการเงินมีการแข่งขันกันรุนแรงขึ้น ซึ่งจะทำให้ยอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบปีนี้ เติบโตได้เฉลี่ยร้อยละ 10 ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชน์เติบโตขึ้นที่ร้อยละ 5 และจนถึงเดือนตุลาคมนี้ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเติบโตได้เร็วกว่าเป้าที่วางไว้ด้วยยอดสินเชื่อ 73,000 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ร้อยละ 30 ซึ่งจัดว่าสูงที่สุดในระบบธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากตั้งเป้าไว้ไม่สูงมากนักประกอบกับออกแคมเปญต่อเนื่องทุกไตรมาส และเพื่อสนับสนุนโครงการบ้านหลังแรกของรัฐบาล ธนาคารจึงออกแคมเปญใหม่ "มหกรรมกู้บ้าน แจกสะท้านเมือง ทั้งเบนซ์ ทั้งทอง" พร้อมฟรีค่าจดจำนองจนถึงเดือนธันวาคมนี้ เพื่อต่อยอดสิทธิประโยชน์ให้แก่ประชาชนที่กำลังตัดสินใจซื้อบ้านหลังแรก รวมไปถึงกลุ่มลูกค้าสินเชื่อรายใหม่ ทั้งลูกค้าสินเชื่อเคหะ สินเชื่อรีไฟแนนซ์ และสินเชื่ออเนกประสงค์มายโฮมมายแคช
สำหรับปีหน้ายังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะเติบโตเท่าไร เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงทั้งปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก อัตราเงินเฟ้อในประเทศ และการฟื้นตัวจากปัญหาอุทกภัยที่ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ มองว่า ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรมากที่สุด ซึ่งจะทำให้มีสินค้าออกสู่ตลาดน้อยลง จนทำให้สินค้ามีราคาสูงขึ้นในที่สุด แต่ในส่วนของการผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบ แต่จะส่งผลทำให้ผู้ที่กู้สินเชื่อมีเงินออมลดลง
สำหรับปีหน้ายังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะเติบโตเท่าไร เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงทั้งปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก อัตราเงินเฟ้อในประเทศ และการฟื้นตัวจากปัญหาอุทกภัยที่ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ มองว่า ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรมากที่สุด ซึ่งจะทำให้มีสินค้าออกสู่ตลาดน้อยลง จนทำให้สินค้ามีราคาสูงขึ้นในที่สุด แต่ในส่วนของการผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบ แต่จะส่งผลทำให้ผู้ที่กู้สินเชื่อมีเงินออมลดลง