หลังจากคณะกรรมการสรรหาองค์กรวิชาชีพที่เกี่ยวข้องได้คัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสม รวมจำนวน 44 คน ส่งชื่อให้วุฒิสภาตรวจสอบคุณสมบัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อมาทำหน้าที่ในการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ทำหน้าที่ในการตรวจสอบข้อมูลประวัติเชิงลึกและข้อร้องเรียนต่างๆ วันนี้ เวลา 10.00 น.วุฒิสภาจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาและลงมติเลือกบุคคลที่เหมาะสม จาก 44 คน ให้เหลือ 11 คน เพื่อทำหน้าที่เป็นกรรมการ กสทช. ท่ามกลางกระแสข่าวการเคลื่อนไหวในการขอเสียงสนับสนุนจากบรรดา ส.ว.กลุ่มต่างๆ
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันว่า การพิจารณาเพื่อลงมติเลือกกรรมการ กสทช.ในวันนี้ น่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง โดยทันทีที่เปิดการประชุม ก็จะเข้าสู่การประชุมลับในทันที เพื่อให้คณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติและความประพฤติ ได้รายงานผลการตรวจสอบประวัติเชิงลึกของผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 44 คน และเปิดโอกาสให้สมาชิกวุฒิสภาได้อภิปรายข้อมูลและข้อร้องเรียนต่างๆ ประกอบการตัดสินใจ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการรวบรวมข้อมูลในเรื่องของความเชื่อมโยงเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนกับกลุ่มทุน หรือความเกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมืองด้วย ก่อนที่จะมีการลงมติลับ ซึ่งจะมีการใช้บัตรลงคะแนนแยกออกเป็น 8 สี 8 กลุ่มของผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม กฎหมาย ด้านเศรษฐศาสตร์ การคุ้มครองผู้บริโภค การศึกษาวัฒนธรรมหรือการพัฒนาสังคม ซึ่งผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดของแต่ละกลุ่มก็จะได้รับเลือกให้เป็น กสทช. โดยกระบวนการนี้ออกแบบมาเพื่อให้ได้ตัวแทนที่มีความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง และป้องกันการบล็อกโหวต
อย่างไรก็ตาม หากวันนี้เกิดอุปสรรคไม่สามารถเลือก กสทช.ได้ครบตามที่กฎหมายภายในวันที่ 111 กระบวนการจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ฝ่ายการเมือง โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้นำรายชื่อให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาแทน
ทั้งนี้ นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา มั่นใจว่ากระบวนการในการเลือก กสทช.ในวันนี้จะสามารถเดินหน้าไปได้ และหากไม่มีอุปสรรคอะไรเกิดขึ้น วันนี้ก็จะได้รายชื่อกรรมการ กสทช.ทั้ง 11 คน ซึ่งจะมีบทบาทหน้าที่สำคัญในการเข้ามาบริหารจัดการคลื่นความถี่ ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันว่า การพิจารณาเพื่อลงมติเลือกกรรมการ กสทช.ในวันนี้ น่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง โดยทันทีที่เปิดการประชุม ก็จะเข้าสู่การประชุมลับในทันที เพื่อให้คณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติและความประพฤติ ได้รายงานผลการตรวจสอบประวัติเชิงลึกของผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 44 คน และเปิดโอกาสให้สมาชิกวุฒิสภาได้อภิปรายข้อมูลและข้อร้องเรียนต่างๆ ประกอบการตัดสินใจ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการรวบรวมข้อมูลในเรื่องของความเชื่อมโยงเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนกับกลุ่มทุน หรือความเกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมืองด้วย ก่อนที่จะมีการลงมติลับ ซึ่งจะมีการใช้บัตรลงคะแนนแยกออกเป็น 8 สี 8 กลุ่มของผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม กฎหมาย ด้านเศรษฐศาสตร์ การคุ้มครองผู้บริโภค การศึกษาวัฒนธรรมหรือการพัฒนาสังคม ซึ่งผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดของแต่ละกลุ่มก็จะได้รับเลือกให้เป็น กสทช. โดยกระบวนการนี้ออกแบบมาเพื่อให้ได้ตัวแทนที่มีความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง และป้องกันการบล็อกโหวต
อย่างไรก็ตาม หากวันนี้เกิดอุปสรรคไม่สามารถเลือก กสทช.ได้ครบตามที่กฎหมายภายในวันที่ 111 กระบวนการจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ฝ่ายการเมือง โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้นำรายชื่อให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาแทน
ทั้งนี้ นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา มั่นใจว่ากระบวนการในการเลือก กสทช.ในวันนี้จะสามารถเดินหน้าไปได้ และหากไม่มีอุปสรรคอะไรเกิดขึ้น วันนี้ก็จะได้รายชื่อกรรมการ กสทช.ทั้ง 11 คน ซึ่งจะมีบทบาทหน้าที่สำคัญในการเข้ามาบริหารจัดการคลื่นความถี่ ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม