โฆษก กมธ.ตรวจสอบประวัติ กสทช. เผยที่ประชุมเตรียมสรุปประวัติ กก.ครั้งสุดท้ายวันนี้ ก่อนชงประธานวุฒิสภานำเข้าสู่ที่ประชุมพิจารณาเลือกต่อ เชื่อไม่มีปัญหาทำเสร็จตามกรอบเวลา ยัน 44 รายไม่พบคุณสมบัติเบื้องต้นไม่ครบ เล็งนำรายละเอียดแจงก่อนลงมติ ชี้กฏหมายมีกลไกป้องกันเกี่ยวกลุ่มทุน หากพบผู้ได้รับตำแหน่งเอี่ยวสามารถยื่นถอดได้
วันนี้ (30 ส.ค.) ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา โฆษกคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของสมควรได้รับเลือกเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ (30 ส.ค.) จะสรุปการตรวจสอบประวัติกรรมการกสทช.ครั้งสุดท้าย ก่อนจะส่งผลการตรวจสอบให้ประธานวุฒิสภา เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาและลงมติเลือก กสทช. เบื้องต้นมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาในขั้นตอนเลือก กสทช. โดยคาดว่าการเลือก กสทช.ของวุฒิสภาจะเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ในวันที่ 5 ก.ย.
นายสมชายกล่าวอีกว่า การตรวจสอบคุณสมบัติพบว่าผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 44 คน ไม่มีรายใดมีปัญหาคุณสมบัติเบื้องต้นไม่ครบ ส่วนรายละเอียดผลการตรวจสอบรายบุคคล กมธ.จะนำรายงานและชี้แจงในที่ประชุมลับของวุฒิสภาก่อนจะลงมติเลือก ส่วนมีความกังวลว่ากรรมการ กสทช. จะมีความเชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องกับกลุ่มอำนาจหรือกลุ่มทุนนั้น ตนตอบไม่ได้ว่า กสทช.จะเชื่อมโยงกับใครหรือไม่ เพราะยังไม่รู้ว่าวุฒิสภาจะเลือกใครเป็น กสทช. อย่างไรก็ตาม กฎหมายได้สร้างกลไกป้องกันการเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนไว้แล้ว โดยกำหนดว่า ผู้เข้ารับการสรรหาจะต้องไม่มีความเกี่ยวข้องกับกิจการสื่อสารมวลชนอย่างน้อย 1 ปี
นายสมชายกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ วุฒิสภายังมีกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติอย่างเข้มงวด และหลังจากนี้วุฒิสภาเลือก กสทช.จะต้องตั้งคณะกรรมการควบคุมและตรวจสอบ 5 คน เพื่อทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบการทำงานของ กสทช. โดยหากพบในภายหลังว่า กสทช.รายใดมีความเกี่ยวพันกับกลุ่มทุน หรือกลุ่มธุรกิจ จะสามารถรายงานต่อวุฒิสภา โดยให้ ส.ว.จำนวน 1 ใน 4 (38 คน) หรือกระบวนการภาคประชาชนรวบรวมรายชื่อ 2 หมื่นรายชื่อ ยื่นเรื่องถอดถอน กสทช.ต่อวุฒิสภาได้