“ส.ว.คำนูณ” ถามแขวงทางการศรีสะเกษยอมเขมรใช้เรียกเขาพระวิหารเป็น “เปรี๊ยะวิเฮียร์” แล้วหรือ “ส.ว.สมชาย” จ่อให้ช่อง กมธ.สิทธิฯ เรียก ช่อง 11 แจงถอดรายการด่ารัฐ “ส.ว.สุรศักดิ์” จี้รัฐพิจารณา พ.ร.บ.ม็อบ ก่อนกฎหมายตก
วันนี้ (5 ก.ย.) ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภา มี พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยในช่วงหารือ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ป้ายแขวงการทางพิเศษ จ.ศรีสะเกษ ได้มีการทำป้ายใหม่ชี้ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใหม่จำนวน 30 ป้ายนั้น กลับพบว่าป้ายชี้ทางไปเขาพระวิหาร โดยใช้ภาษาอังกฤษซึ่งใช้ภาษาโรมันตามกัมพูชาว่าเปรี๊ยะวิเฮียร์ ซึ่งในอดีตประเทศไทยเคยเขียนโดยใช้ภาษาโรมันตามภาษาไทย คือ เขาพระวิหาร เรื่องนี้อาจดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ก็ต้องมองด้วยว่าการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ในปี 51 และ 52 ได้มีความพยายามตกลงกันระหว่างไทย-กัมพูชาว่าจะใช้คำเขียนแบบไทยหรือกัมพูชา จึงอยากจะถามว่าขณะนี้ตกลงกันได้แล้วใช่หรือไม่ที่จะเรียกตามกัมพูชา เพราะไม่เช่นนั้นทางจังหวัดศรีสะเกษจะมีการแก้ไขอย่างไร
ขณะที่ นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า รัฐบาลแถลงนโยบายและหาเสียงโดยชูสโลแกนแก้ไขไม่แก้แค้น แต่ขณะนี้ไม่ค่อยแน่ใจเพราะแนวทางสมานฉันท์ควรให้สื่อมวลชนมีสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่กลับมีการแทรกแซงสื่อทั้งกรณีคุกคามผู้สื่อข่าวช่อง 7 และการถอดรายการคลายปม และเจาะข่าวร้อน ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 ทั้งที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ของช่อง 11 ได้นำรายการไปตรวจสอบแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติ โดยประเด็นที่รายการเสนอเป็นประเด็นสาธารณะทั้งสิ้น จึงขอเรียกร้องให้ทางช่อง 11 ทำการทบทวนคำสั่งเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นจะใช้ช่องทางของกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง
ด้าน พล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตามที่วุฒิสภาอยู่ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.... โดยมีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณาแต่มีการยุบสภาเกิดขึ้นทำให้ร่างกฎหมายค้างอยู่ในวุฒิสภา ซึ่งหากรัฐบาลไม่ยืนยันร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวกลับมาภายในวันที่ 29 ก.ย. กฎหมายฉบับนี้จะตกไปทันที ทั้งนี้ พ.ร.บ.ฉบับนี้มีประโยชน์และมีความสำคัญในระบอบประชาธิปไตย หลายประเทศที่เจริญแล้วจะมี พ.ร.บ.ลักษณะเช่นนี้ ประโยชน์ของกฎหมายมีมากกว่าความเป็นห่วงที่จะขัดรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาการชุมนุมทางการเมืองสร้างความเดือดร้อนให้แก่บ้านเมืองและไม่มีใครต้องการให้เกิดความเดือดร้อน เมื่อรัฐบาลมีชัยชนะและเสียงข้างมากในการเลือกตั้ง รัฐบาลจึงควรยืนยันร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวเพื่อกลับมาพิจารณาในวุฒิสภาอีกครั้ง
