บรรดาผู้นำทางการเมือง ธนาคารกลางและกระทรวงการคลังจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมก้าวหน้าและตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่ทั้งจี7และ จี20ส่งสัญญาณร่วมกันถึงความพรักพร้อมของพวกเขาที่จะต่อสู้กับวิกฤตหนี้สาธารณะ โดยมุ่งผ่อนคลายความวิตกของนักลงทุนในตลาดเงินและตลาดทุนจากผลพวงที่ S&P สถาบันเครดิตเรตติ้งยักษ์ใหญ่ประกาศลดความน่าเชื่อถือในศักยภาพการชำระหนี้ของสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ตลอดจนความกังวลที่มีต่อปัญหาหนี้สินภาครัฐในยูโรโซนที่กำลังลุกลามไปคุกคามอิตาลีและสเปนอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม คำปลอบโยนดังกล่าวปรากฏว่าไม่สามารถคลายความตื่นตระหนกในย่านเอเชียและยุโรปได้ โดยตลาดหลักทรัพย์สำคัญๆ ทั่วโลกเป็นต้นว่า โตเกียว, ฮ่องกง, ลอนดอน และแฟรงเฟิร์ตต่างพากันร่วงระนาว นอกจากนี้ราคาทองคำก็พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ด้วย ขณะที่น้ำมันทรุดตัวลง 4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดหลักทรัพย์สำคัญๆ ในยุโรป ทั้งลอนดอน, ปารีส, และแฟรงเฟิร์ต เมื่อวันจันทร์ต่างก็ปรับตัวผันผวนอยู่ทั้งในแดนบวกและแดนลบ โดยที่มาตรการแทรกแซงของอีซีบีส่งผลให้ตลาดเหล่านี้ขยับขึ้นบ้างในบางช่วง ทว่าในตอนกลางๆ ตลาด ดัชนีสำคัญของตลาดเหล่านี้ต่างติดลบในระดับ 2-3 %
ขณะที่ราคาทองคำ ก็พุ่งพรวดขึ้นเลยเพดาน 1,700 ดอลลาร์ต่อ 7 ออนซ์ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยแตะระดับสูงสุดอันเป็นสถิติใหม่ที่ระดับ 1,715.75 ดอลลาร์/ออนซ์ ในช่วงการซื้อขายที่ตลาดฮ่องกงเมื่อวันจันทร์ (8) อันเป็นผลจากการที่นักลงทุนแห่เทขายดอลลาร์ และหันไปซื้อทองคำกักตุนไว้
ในส่วนตลาดน้ำมันนั้น ราคากลับดำดิ่งลงมาเนื่องจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในเวลานี้ทำให้เห็นกันว่าเศรษฐกิจโลกจะย่ำแย่และจะมีความต้องการใช้น้ำมันน้อยลง สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิด “เบรนต์” ของลอนดอน ถอยลึกลงถึง 105.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือลดจากช่วงปิดตลาดวันศุกร์(5) 3.94 ดอลลาร์ ก่อนจะขยับขึ้นบ้างโดยอยู่แถวๆ 106.00 ดอลลาร์ ในช่วง 12.45 น.ตามเวลามาตรฐานกรีนิช (จีเอ็มที ตรงกับ 19.45 น.เวลาเมืองไทย) ส่วนน้ำมันดิบชนิดไลต์ครูดของสหรัฐฯ ก็รูดลงถึงระดับ 82.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือถอยจากตอนปิดตลาดวันศุกร์ 4.23 ดอลลาร์ ก่อนขยับขึ้นถึงแถวๆ 83.00 ดอลลาร์ในเวลา 12.45 น.จีเอ็มที
ตลาดหลักทรัพย์สำคัญๆ ในยุโรป ทั้งลอนดอน, ปารีส, และแฟรงเฟิร์ต เมื่อวันจันทร์ต่างก็ปรับตัวผันผวนอยู่ทั้งในแดนบวกและแดนลบ โดยที่มาตรการแทรกแซงของอีซีบีส่งผลให้ตลาดเหล่านี้ขยับขึ้นบ้างในบางช่วง ทว่าในตอนกลางๆ ตลาด ดัชนีสำคัญของตลาดเหล่านี้ต่างติดลบในระดับ 2-3 %
ขณะที่ราคาทองคำ ก็พุ่งพรวดขึ้นเลยเพดาน 1,700 ดอลลาร์ต่อ 7 ออนซ์ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยแตะระดับสูงสุดอันเป็นสถิติใหม่ที่ระดับ 1,715.75 ดอลลาร์/ออนซ์ ในช่วงการซื้อขายที่ตลาดฮ่องกงเมื่อวันจันทร์ (8) อันเป็นผลจากการที่นักลงทุนแห่เทขายดอลลาร์ และหันไปซื้อทองคำกักตุนไว้
ในส่วนตลาดน้ำมันนั้น ราคากลับดำดิ่งลงมาเนื่องจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในเวลานี้ทำให้เห็นกันว่าเศรษฐกิจโลกจะย่ำแย่และจะมีความต้องการใช้น้ำมันน้อยลง สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิด “เบรนต์” ของลอนดอน ถอยลึกลงถึง 105.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือลดจากช่วงปิดตลาดวันศุกร์(5) 3.94 ดอลลาร์ ก่อนจะขยับขึ้นบ้างโดยอยู่แถวๆ 106.00 ดอลลาร์ ในช่วง 12.45 น.ตามเวลามาตรฐานกรีนิช (จีเอ็มที ตรงกับ 19.45 น.เวลาเมืองไทย) ส่วนน้ำมันดิบชนิดไลต์ครูดของสหรัฐฯ ก็รูดลงถึงระดับ 82.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือถอยจากตอนปิดตลาดวันศุกร์ 4.23 ดอลลาร์ ก่อนขยับขึ้นถึงแถวๆ 83.00 ดอลลาร์ในเวลา 12.45 น.จีเอ็มที