รัฐบาลโปรตุเกสแถลงว่า ตนเองสามารถผ่านการทดสอบความน่าเชื่อถือครั้งสำคัญ จากความสำเร็จในการนำเอาพันธบัตรออกมาประมูลขายเมื่อวันพุธ(12) อย่างไรก็ตาม พวกนักวิเคราะห์กลับโต้แย้งว่า ยังคงมีความเป็นไปได้อย่างมากที่โปรตุเกสจะต้องยอมรับแพกเกจความช่วยเหลือจากอียู-ไอเอ็มเอฟ เพื่อแก้ปัญหาหนี้สินภาครัฐให้คลี่คลายไปได้อย่างแท้จริง
การนำพันธบัตรออกประมูลขายของรัฐบาลโปรตุเกสคราวนี้ ปรากฏว่าสามารถระดมเงินได้ราว 1,250 ล้านยูโร ซึ่งเป็นปริมาณสูงสุดที่เตรียมนำออกมาเสนอขาย โดยที่มีผู้สนใจเข้ามาเสนอราคากันอย่างคึกคัก นอกจากนั้นอัตราผลตอบแทนสำหรับพันธบัตรประเภทระยะยาวที่โปรตุเกสจะต้องจ่ายก็ต่ำลงกว่าเดิมเล็กน้อยด้วย ดังนั้นทางการลิสบอนจึงอวดว่านี่เป็นข้อพิสูจน์ว่า ตนยังคงเป็นลูกหนี้ซึ่งมีเครดิตได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ
“หนึ่งในบรรดาข้อสรุปทั้งหลายที่สามารถกล่าวได้ … ก็คือโปรตุเกสยังคงสามารถที่จะ (เข้าถึง) ตลาดการเงิน ก็คือ ยังคงมีความต้องการ (ในพันธบัตรของโปรตุเกส) ก็คือโปรตุเกสสามารถที่จะได้รับ (อัตราผลตอบแทนที่จะต้องจ่าย) ซึ่งเป็นที่ยอมรับได้และกระทั่งว่าน่าพึงปรารถนาด้วยซ้ำไป เมื่อพิจารณาจากบริบทแวดล้อม” รัฐมนตรีคลัง เฟร์นันโด เตเซรา โดส ซานโตส กล่าว พร้อมกับพูดสำทับว่า จากสภาพการณ์ดังที่กล่าวมานี้ ทำให้ประเทศของเขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหาความช่วยเหลือจากภายนอก
ก่อนหน้านี้เป็นที่หวั่นเกรงกันว่าการประมูลขายคราวนี้จะประสบความล้มเหลว ซึ่งจะบังคับให้โปรตุเกสต้องขอรับเงินกู้ช่วยเหลือจากกองทุนรักษาเสถียรภาพยุโรปของสหภาพยุโรป(อียู) ตลอดจนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) นอกจากนั้นยังจะเป็นการเพิ่มแรงบีบคั้นต่อสเปน แล้วก็เลยจะทำให้ทั่วทั้งเขตยูโรโซนย่ำแย่ไปหมด
การนำพันธบัตรออกประมูลขายของรัฐบาลโปรตุเกสคราวนี้ ปรากฏว่าสามารถระดมเงินได้ราว 1,250 ล้านยูโร ซึ่งเป็นปริมาณสูงสุดที่เตรียมนำออกมาเสนอขาย โดยที่มีผู้สนใจเข้ามาเสนอราคากันอย่างคึกคัก นอกจากนั้นอัตราผลตอบแทนสำหรับพันธบัตรประเภทระยะยาวที่โปรตุเกสจะต้องจ่ายก็ต่ำลงกว่าเดิมเล็กน้อยด้วย ดังนั้นทางการลิสบอนจึงอวดว่านี่เป็นข้อพิสูจน์ว่า ตนยังคงเป็นลูกหนี้ซึ่งมีเครดิตได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ
“หนึ่งในบรรดาข้อสรุปทั้งหลายที่สามารถกล่าวได้ … ก็คือโปรตุเกสยังคงสามารถที่จะ (เข้าถึง) ตลาดการเงิน ก็คือ ยังคงมีความต้องการ (ในพันธบัตรของโปรตุเกส) ก็คือโปรตุเกสสามารถที่จะได้รับ (อัตราผลตอบแทนที่จะต้องจ่าย) ซึ่งเป็นที่ยอมรับได้และกระทั่งว่าน่าพึงปรารถนาด้วยซ้ำไป เมื่อพิจารณาจากบริบทแวดล้อม” รัฐมนตรีคลัง เฟร์นันโด เตเซรา โดส ซานโตส กล่าว พร้อมกับพูดสำทับว่า จากสภาพการณ์ดังที่กล่าวมานี้ ทำให้ประเทศของเขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหาความช่วยเหลือจากภายนอก
ก่อนหน้านี้เป็นที่หวั่นเกรงกันว่าการประมูลขายคราวนี้จะประสบความล้มเหลว ซึ่งจะบังคับให้โปรตุเกสต้องขอรับเงินกู้ช่วยเหลือจากกองทุนรักษาเสถียรภาพยุโรปของสหภาพยุโรป(อียู) ตลอดจนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) นอกจากนั้นยังจะเป็นการเพิ่มแรงบีบคั้นต่อสเปน แล้วก็เลยจะทำให้ทั่วทั้งเขตยูโรโซนย่ำแย่ไปหมด