สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ซึ่งมีส.ส.รีพับลิกันครองเก้าอี้ส่วนใหญ่ ลงมติเมื่อวันจันทร์ (1) เห็นชอบร่างกฎหมายขยายเพดานก่อหนี้สาธารณะและตัดลดรายจ่ายภาครัฐเพื่อลดการขาดดุลงบประมาณแผ่นดินตลอดจนหลีกเลี่ยงการที่ยักษ์เศรษฐกิจเบอร์หนึ่งของโลกรายนี้จะต้องตกอยู่ในฐานะ “ผิดนัดชำระหนี้” ทั้งนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวจะผ่านเข้าสู่ขั้นตอนการโหวตรับรองในวุฒิสภาในช่วงเที่ยงของวันอังคาร (2) ตามเวลากรุงวอชิงตัน (ตรงกับ 23.00น. เวลาเมืองไทย) ซึ่งไม่คาดว่าจะมีปัญหาอะไร และจากนั้นก็จะผ่านมาถึงโต๊ะประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้เซ็นรับรองประกาศบังคับใช้ต่อไป อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า แผนการกอบกู้วิกฤตสหรัฐฯ คราวนี้จะมีอิมแพ็กต่อระบบเศรษฐกิจและช่วยตัดลดการขาดดุลงบประมาณได้เพียงน้อยนิด
เป็นที่คาดหมายว่า ในวันอังคาร (2) วุฒิสภาอเมริกันจะลงมติผ่านร่างกฎหมายตัดลดการขาดดุลงบประมาณระยะเวลา 10 ปีและขยายเพดานก่อหนี้เพิ่มขึ้นอีก 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเพียงพอต่อการที่สหรัฐฯ จะสามารถกู้ยืมได้ไปถึงปี 2013 หรืออย่างน้อยก็จนกว่าจะพ้นช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน ปี 2012 แล้ว การโหวตดังกล่าวถูกจัดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงกำหนดเส้นตายที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่าจะต้องกู้ยืมเงินเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่ก่อหนี้จนชนเพดานที่ระดับ 14.3 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว เพื่อนำมาชำระหนี้พันธบัตรที่กำลังจะครบกำหนดไถ่ถอนในเวลา 24.00น. วันอังคารตามเวลาท้องถิ่น (11.00น.วันพุธตามเวลาไทย)
ด้านปฏิกิริยาจากภายนอก โดยเฉพาะท่าทีของสถาบันเครดิตเรตติ้งยักษ์ใหญ่นั้น ก็ปรากฏว่า มีสองบริษัทที่ออกมาขานรับข่าวนี้โดยระบุว่า แผนการตัดลดขาดดุลงบประมาณมูลค่ารวม 4 ล้านล้านดอลลาร์ของสหรัฐฯ นี้ อาจทำให้พวกเขาพิจารณาคงอันดับความน่าเชื่อในศักยภาพการชำระหนี้ระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐฯ ไว้ที่ระดับ AAA
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สหรัฐฯ จะสามารถขจัดปัจจัยความไม่แน่นอนเกี่ยวกับวิกฤตการผิดชำระหนี้อันบั่นทอนความเชื่อมั่นของตลาดโลกในช่วงระยะหลังได้ ทว่าก็ยังไม่อาจขจัดความไม่แน่นอนในเรื่องการวางรากฐานอันยั่งยืนเกี่ยวกับนโยบายด้านภาษีและลดงบประมาณแผ่นดินได้ ตลอดจนยังสะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนอันแตกต่างกันสุดขั้วระหว่างพรรคการเมืองใหญ่ทั้งสองในเรื่องแนวทางการลดขาดดุลงบประมาณ
“แนวทางแก้ไขปัญหาโดยการขยายเพดานหนี้นั้นจะสามารถกำจัดเมฆหมอกอันอึมครึมได้เพียงเปราะเดียว ทว่ายังไม่สามารถแปรเปลี่ยนสภาพที่เป็นจริงในทางเศรษฐกิจได้” เกร็ก แม็กไบรด์ นักวิเคราะห์ด้านการเงินอาวุโสแห่งแบงก์เรต ดอต คอม ให้ทัศนะ
นอกจากนี้ บรรดานักวิเคราะห์ก็มองด้วยว่า มาตรการตัดลดรายจ่ายต่างๆ ภายใต้กฎหมายฉบับใหม่ซึ่งมุ่งลดการขาดดุลงบประมาณและขยายเพดานหนี้นั้น ไม่น่าที่จะส่งผลกระทบกว้างขวางในลักษณะที่เห็นผลทันตาได้ รวมถึงไม่น่าจะช่วยลดปัญหาขาดดุลงบประมาณได้มากในระยะอันใกล้นี้ด้วย
เป็นที่คาดหมายว่า ในวันอังคาร (2) วุฒิสภาอเมริกันจะลงมติผ่านร่างกฎหมายตัดลดการขาดดุลงบประมาณระยะเวลา 10 ปีและขยายเพดานก่อหนี้เพิ่มขึ้นอีก 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเพียงพอต่อการที่สหรัฐฯ จะสามารถกู้ยืมได้ไปถึงปี 2013 หรืออย่างน้อยก็จนกว่าจะพ้นช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน ปี 2012 แล้ว การโหวตดังกล่าวถูกจัดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงกำหนดเส้นตายที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่าจะต้องกู้ยืมเงินเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่ก่อหนี้จนชนเพดานที่ระดับ 14.3 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว เพื่อนำมาชำระหนี้พันธบัตรที่กำลังจะครบกำหนดไถ่ถอนในเวลา 24.00น. วันอังคารตามเวลาท้องถิ่น (11.00น.วันพุธตามเวลาไทย)
ด้านปฏิกิริยาจากภายนอก โดยเฉพาะท่าทีของสถาบันเครดิตเรตติ้งยักษ์ใหญ่นั้น ก็ปรากฏว่า มีสองบริษัทที่ออกมาขานรับข่าวนี้โดยระบุว่า แผนการตัดลดขาดดุลงบประมาณมูลค่ารวม 4 ล้านล้านดอลลาร์ของสหรัฐฯ นี้ อาจทำให้พวกเขาพิจารณาคงอันดับความน่าเชื่อในศักยภาพการชำระหนี้ระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐฯ ไว้ที่ระดับ AAA
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สหรัฐฯ จะสามารถขจัดปัจจัยความไม่แน่นอนเกี่ยวกับวิกฤตการผิดชำระหนี้อันบั่นทอนความเชื่อมั่นของตลาดโลกในช่วงระยะหลังได้ ทว่าก็ยังไม่อาจขจัดความไม่แน่นอนในเรื่องการวางรากฐานอันยั่งยืนเกี่ยวกับนโยบายด้านภาษีและลดงบประมาณแผ่นดินได้ ตลอดจนยังสะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนอันแตกต่างกันสุดขั้วระหว่างพรรคการเมืองใหญ่ทั้งสองในเรื่องแนวทางการลดขาดดุลงบประมาณ
“แนวทางแก้ไขปัญหาโดยการขยายเพดานหนี้นั้นจะสามารถกำจัดเมฆหมอกอันอึมครึมได้เพียงเปราะเดียว ทว่ายังไม่สามารถแปรเปลี่ยนสภาพที่เป็นจริงในทางเศรษฐกิจได้” เกร็ก แม็กไบรด์ นักวิเคราะห์ด้านการเงินอาวุโสแห่งแบงก์เรต ดอต คอม ให้ทัศนะ
นอกจากนี้ บรรดานักวิเคราะห์ก็มองด้วยว่า มาตรการตัดลดรายจ่ายต่างๆ ภายใต้กฎหมายฉบับใหม่ซึ่งมุ่งลดการขาดดุลงบประมาณและขยายเพดานหนี้นั้น ไม่น่าที่จะส่งผลกระทบกว้างขวางในลักษณะที่เห็นผลทันตาได้ รวมถึงไม่น่าจะช่วยลดปัญหาขาดดุลงบประมาณได้มากในระยะอันใกล้นี้ด้วย