นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงสถานการณ์เอสเอ็มอีในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ว่า ยังคงมีแนวโน้มที่ดี
ส่วนนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทนั้น สสว.ค่อนข้างเห็นด้วย แต่ควรปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไป และควรมีมาตรการลดผลกระทบให้กับเอสเอ็มอี โดย สสว.จะตั้งกองทุนเลเบอร์ฟันด์ (Labor Fund) วงเงิน 300 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบประมาณ 430,000 ราย จากจำนวนเอสเอ็มอีทั้งหมด 2,890,000 ราย โดยกองทุนฯ จะช่วยอุดหนุนดอกเบี้ยร้อยละ 3-4 ให้เอสเอ็มอีที่กู้เงินไปใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและแรงงาน ในวงเงินรายละไม่เกิน 5 ล้านบาท
ด้านนายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองผู้อำนวยการวิเคราะห์ความเสี่ยงมหภาคและวิจัย ธนาคารทหารไทย กล่าวถึงสถานการณ์ของเอสเอ็มอีในช่วงครึ่งปีหลัง ที่ยังมีแนวโน้มดีมาก ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน และธุรกิจท่องเที่ยว ส่วนธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีแนวโน้มดีปานกลาง ได้แก่ อาหาร ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กระดาษ ปิโตรเคมี ค้าส่ง-ค้าปลีก และโรงพยาบาลเอกชน
ขณะที่ธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีแนวโน้มควรระวัง ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ไม้ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านความสามารถในการแข่งขัน และอาจได้รับผลกระทบจากต้นทุนดอกเบี้ยต่ำ และค่าจ้างที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ส่วนนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทนั้น สสว.ค่อนข้างเห็นด้วย แต่ควรปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไป และควรมีมาตรการลดผลกระทบให้กับเอสเอ็มอี โดย สสว.จะตั้งกองทุนเลเบอร์ฟันด์ (Labor Fund) วงเงิน 300 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบประมาณ 430,000 ราย จากจำนวนเอสเอ็มอีทั้งหมด 2,890,000 ราย โดยกองทุนฯ จะช่วยอุดหนุนดอกเบี้ยร้อยละ 3-4 ให้เอสเอ็มอีที่กู้เงินไปใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและแรงงาน ในวงเงินรายละไม่เกิน 5 ล้านบาท
ด้านนายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองผู้อำนวยการวิเคราะห์ความเสี่ยงมหภาคและวิจัย ธนาคารทหารไทย กล่าวถึงสถานการณ์ของเอสเอ็มอีในช่วงครึ่งปีหลัง ที่ยังมีแนวโน้มดีมาก ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน และธุรกิจท่องเที่ยว ส่วนธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีแนวโน้มดีปานกลาง ได้แก่ อาหาร ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กระดาษ ปิโตรเคมี ค้าส่ง-ค้าปลีก และโรงพยาบาลเอกชน
ขณะที่ธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีแนวโน้มควรระวัง ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ไม้ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านความสามารถในการแข่งขัน และอาจได้รับผลกระทบจากต้นทุนดอกเบี้ยต่ำ และค่าจ้างที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
