กระทรวงการคลัง ระบุว่า ตามที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินโครงการลดภาระดอกเบี้ยบัตรเครดิต โดยการออกสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต เพื่อแบ่งเบาภาระดอกเบี้ยจ่ายให้กับผู้ที่มีบัตรเครดิตและประวัติการชำระดีตั้งแต่ 1-17 มิถุนายนนี้ พบว่ามีผู้มาขอยื่นขอสินเชื่อกับ 3 ธนาคารทั้ง 3 แห่ง 10,119 ราย รวมวงเงิน 1,265 ล้านบาท และมีการอนุมัติสินเชื่อแล้ว 1,126 ราย วงเงินประมาณ 122 ล้านบาท
ทั้งนี้การดำเนินโครงการสินเชื่อดังกล่าวยังอยู่ในระยะเริ่มต้น จึงมีบางสาขาเข้าใจคลาดเคลื่อนในหลักการ และแนวทางปฏิบัติของโครงการ ทำให้ลูกหนี้ที่มีศักยภาพบางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ธนาคารในโครงการจึงร่วมมือกันหารือกันเพื่อปรับความเข้าใจให้ตรงกัน รวมทั้งหาแนวทางแก้ปัญหาและอุปสรรค โดยมีข้อสรุปคือ ผู้ขอสินเชื่อที่มีสถานะสินเชื่อเป็นตามปกติ ข้อมูลเครดิตตั้งแต่ 30 เมษายนจนถึงวันที่ขอยื่นสามารถรีไฟแนนซ์วงเงินได้ไม่เกิน 300,000 บาท ซึ่งธนาคารจะพิจารณาจากเอกสารแจ้งยอดเงินเดือนสำหรับผู้ที่มีเงินเดือนประจำ รวมถึงการเคลื่อนไหวของเงินฝากและหลักฐานอื่นๆ และหากผู้ขอสินเชื่อมีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ และยอดหนี้เกิน 300,000 บาทก็จะมีสิทธิ์เลือกรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตบางใบได้
ส่วนกรณีผู้ขอสินเชื่อมีอายุเกิน 60 ปี ธนาคารอาจจะพิจารณาให้มีการค้ำประกันส่วนบุคคล และทั้ง 3 ธนาคารจะเร่งทำความเข้าใจในหลักการกับทุกสาขา ขณะเดียวกันธนาคารทั้ง 3 แห่งจะร่วมกันพิจารณาหาแนวทางแบ่งเบาภาระดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนบุคคล โดยจัดทำโครงการรีไฟแนนซ์สินเชื่อบุคคลของผู้ที่ขอสินเชื่อจากธนาคารจากนอนแบงก์ที่ไม่ใช่ธนาคารให้กับผู้ที่มีประวัติการชำระดี เพื่อให้โครงการลดภาระดอกเบี้ยครอบคลุมไปถึงประชาชนระดับฐานรากอย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น ซึ่งทั้ง 3 ธนาคารจะเปิดตัวโครงการนี้ 24 มิถุนายนนี้
ทั้งนี้การดำเนินโครงการสินเชื่อดังกล่าวยังอยู่ในระยะเริ่มต้น จึงมีบางสาขาเข้าใจคลาดเคลื่อนในหลักการ และแนวทางปฏิบัติของโครงการ ทำให้ลูกหนี้ที่มีศักยภาพบางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ธนาคารในโครงการจึงร่วมมือกันหารือกันเพื่อปรับความเข้าใจให้ตรงกัน รวมทั้งหาแนวทางแก้ปัญหาและอุปสรรค โดยมีข้อสรุปคือ ผู้ขอสินเชื่อที่มีสถานะสินเชื่อเป็นตามปกติ ข้อมูลเครดิตตั้งแต่ 30 เมษายนจนถึงวันที่ขอยื่นสามารถรีไฟแนนซ์วงเงินได้ไม่เกิน 300,000 บาท ซึ่งธนาคารจะพิจารณาจากเอกสารแจ้งยอดเงินเดือนสำหรับผู้ที่มีเงินเดือนประจำ รวมถึงการเคลื่อนไหวของเงินฝากและหลักฐานอื่นๆ และหากผู้ขอสินเชื่อมีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ และยอดหนี้เกิน 300,000 บาทก็จะมีสิทธิ์เลือกรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตบางใบได้
ส่วนกรณีผู้ขอสินเชื่อมีอายุเกิน 60 ปี ธนาคารอาจจะพิจารณาให้มีการค้ำประกันส่วนบุคคล และทั้ง 3 ธนาคารจะเร่งทำความเข้าใจในหลักการกับทุกสาขา ขณะเดียวกันธนาคารทั้ง 3 แห่งจะร่วมกันพิจารณาหาแนวทางแบ่งเบาภาระดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนบุคคล โดยจัดทำโครงการรีไฟแนนซ์สินเชื่อบุคคลของผู้ที่ขอสินเชื่อจากธนาคารจากนอนแบงก์ที่ไม่ใช่ธนาคารให้กับผู้ที่มีประวัติการชำระดี เพื่อให้โครงการลดภาระดอกเบี้ยครอบคลุมไปถึงประชาชนระดับฐานรากอย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น ซึ่งทั้ง 3 ธนาคารจะเปิดตัวโครงการนี้ 24 มิถุนายนนี้