นายประสิทธิ อำภรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลัง ได้ขอความร่วมมือจากธนาคารในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่มีภาระหนี้บัตรเครดิตในโครงการลดภาระดอกเบี้ยหนี้บัตรเครดิต ในระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน -31 สิงหาคม 2554 ขณะนี้ทุกสาขามีความพร้อมในการให้สินเชื่อ โดยธนาคารจะให้สินเชื่อเพื่อชำระหนี้กับลูกหนี้บัตรเครดิตรายที่มีเงื่อนไขชำระเงินขั้นต่ำได้ตามใบแจ้งยอดบัญชีบัตรเครดิต และเป็นลูกหนี้ที่ดี ณ วันที่ 30 เมษายน 2554 เป็นต้นไป
ในการให้กู้นั้น ธนาคารให้กู้เพื่อให้ลูกหนี้นำเงินไปชำระหนี้บัตรเครดิตเต็มตามจำนวนของแต่ละบัตร โดยยกเลิกการใช้บัตรเครดิตใบนั้น สำหรับกรณีที่มีหลายบัตร สามารถกู้เพื่อชำระหนี้บัตรใดบัตรหนึ่งหรือทุกบัตรก็ได้ ธนาคารให้กู้สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท และเมื่อรวมกับวงเงินสินเชื่อประเภทอื่นที่เป็นสินเชื่อบุคคลที่มีอยู่กับธนาคาร ต้องไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือน โดยผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเป็นรายเดือนๆละเท่าๆกัน ภายใน 1-3 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย MRR บวก 2.5% ต่อปี ปัจจุบันเท่ากับ 10% ต่อปี
นอกจากนี้ ลูกค้าของโครงการลดภาระดอกเบี้ยหนี้บัตรเครดิต ที่กู้ผ่านธนาคารยังสามารถทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองอุบัติเหตุ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต โดยเสียค่าเบี้ยประกันในอัตราพิเศษ ได้แก่ 440 บาทต่อปี สำหรับวงเงินคุ้มครอง 100,000 บาท เบี้ยประกัน 880 บาทต่อปี สำหรับวงเงินคุ้มครอง 200,000 บาท และเบี้ยประกัน 1,320 บาทต่อปี สำหรับวงเงินคุ้มครอง 300,000 บาท
นายประสิทธิกล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ลูกหนี้มีวินัยทางการเงิน ธนาคารได้จัดแพ็คเกจสำหรับลูกหนี้ที่ผ่อนชำระตรงเวลา โดยลูกหนี้ที่ผ่อนชำระตรงเวลาใน 1 ปี ธนาคารลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ต่อปี ในปีที่ 2 และลดดอกเบี้ยลง 1% ต่อปี ในปีที่ 3 นอกจากนี้ หากลูกค้าผ่อนชำระตามเงื่อนไขอย่างสม่ำเสมอ เมื่อชำระหนี้เสร็จสิ้น ธนาคารให้สิทธิกู้สินเชื่อกรุงไทยธนวัฏและสินเชื่ออเนกประสงค์ โดยในปีแรกลดดอกเบี้ยให้ 3.50% ต่อปี เหลืออัตรา MRR ต่อปีเท่านั้น
ในการให้กู้นั้น ธนาคารให้กู้เพื่อให้ลูกหนี้นำเงินไปชำระหนี้บัตรเครดิตเต็มตามจำนวนของแต่ละบัตร โดยยกเลิกการใช้บัตรเครดิตใบนั้น สำหรับกรณีที่มีหลายบัตร สามารถกู้เพื่อชำระหนี้บัตรใดบัตรหนึ่งหรือทุกบัตรก็ได้ ธนาคารให้กู้สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท และเมื่อรวมกับวงเงินสินเชื่อประเภทอื่นที่เป็นสินเชื่อบุคคลที่มีอยู่กับธนาคาร ต้องไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือน โดยผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเป็นรายเดือนๆละเท่าๆกัน ภายใน 1-3 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย MRR บวก 2.5% ต่อปี ปัจจุบันเท่ากับ 10% ต่อปี
นอกจากนี้ ลูกค้าของโครงการลดภาระดอกเบี้ยหนี้บัตรเครดิต ที่กู้ผ่านธนาคารยังสามารถทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองอุบัติเหตุ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต โดยเสียค่าเบี้ยประกันในอัตราพิเศษ ได้แก่ 440 บาทต่อปี สำหรับวงเงินคุ้มครอง 100,000 บาท เบี้ยประกัน 880 บาทต่อปี สำหรับวงเงินคุ้มครอง 200,000 บาท และเบี้ยประกัน 1,320 บาทต่อปี สำหรับวงเงินคุ้มครอง 300,000 บาท
นายประสิทธิกล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ลูกหนี้มีวินัยทางการเงิน ธนาคารได้จัดแพ็คเกจสำหรับลูกหนี้ที่ผ่อนชำระตรงเวลา โดยลูกหนี้ที่ผ่อนชำระตรงเวลาใน 1 ปี ธนาคารลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ต่อปี ในปีที่ 2 และลดดอกเบี้ยลง 1% ต่อปี ในปีที่ 3 นอกจากนี้ หากลูกค้าผ่อนชำระตามเงื่อนไขอย่างสม่ำเสมอ เมื่อชำระหนี้เสร็จสิ้น ธนาคารให้สิทธิกู้สินเชื่อกรุงไทยธนวัฏและสินเชื่ออเนกประสงค์ โดยในปีแรกลดดอกเบี้ยให้ 3.50% ต่อปี เหลืออัตรา MRR ต่อปีเท่านั้น