นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤษภาคม ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 80.4 สูงขึ้นจากเดือนเมษายน ซึ่งอยู่ที่ 79.6 เนื่องจากประชาชนมีความหวังว่าหลังจากการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่จะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจให้ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันที่เริ่มปรับตัวลดลง รวมถึงเริ่มมีเม็ดเงินจากการเลือกตั้งสะพัดมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ยังกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงความไม่แน่นอนของการเมืองไทย และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวมากกว่าร้อยละ 4 และอัตราเงินเฟ้อจะไม่เกินร้อยละ 4 เช่นกัน
ด้านนายฉัตรชัย บุญรัตน์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ยอมรับว่า เป็นห่วงนโยบายประชานิยมของพรรคการเมืองต่างๆ ที่เริ่มแข่งขันรุนแรงมากขึ้น เพราะอาจจะกระทบต่อฐานะการคลังและเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งเห็นได้จากตลาดหุ้นที่เริ่มปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ภาครัฐดูแลราคาสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุน โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม ที่ราคาวัตถุดิบปรับลดลงมาก แต่ราคายังไม่ลดลงแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ยังกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงความไม่แน่นอนของการเมืองไทย และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวมากกว่าร้อยละ 4 และอัตราเงินเฟ้อจะไม่เกินร้อยละ 4 เช่นกัน
ด้านนายฉัตรชัย บุญรัตน์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ยอมรับว่า เป็นห่วงนโยบายประชานิยมของพรรคการเมืองต่างๆ ที่เริ่มแข่งขันรุนแรงมากขึ้น เพราะอาจจะกระทบต่อฐานะการคลังและเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งเห็นได้จากตลาดหุ้นที่เริ่มปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ภาครัฐดูแลราคาสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุน โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม ที่ราคาวัตถุดิบปรับลดลงมาก แต่ราคายังไม่ลดลงแต่อย่างใด
