นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงวานนี้ เชื้ออีโคไล ชนิดโอ 104 ที่กำลังระบาดในยุโรป ที่เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 18 คน ล้มป่วยอีกกว่า 1,600 คน น่าจะเป็นเชื้อกลายพันธุ์ เนื่องจากไม่เคยพบมาก่อน แถมยังเป็นเชื้อที่มีความรุนแรง สามารถติดต่อได้ง่ายกว่าเชื้ออีโคไลทั่วไป คาดว่าต้นตอน่าจะมาจากสัตว์ และปนเปื้อนในผักที่เป็นอาหารของคน ทางปุ๋ยคอกที่นำมาบำรุงดิน
ในส่วนของไทยเองได้กำชับด่านควบคุมโรคท่าอากาศยานนานาชาติในประเทศ ให้ตรวจสอบติดตามผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเยอรมนี หากมีอาการท้องเสียปนมูกเลือด ให้ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์การแพทย์ ว่าติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไลหรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์รุ่งเรือง เชื่อว่าเชื้อดังกล่าวมีโอกาสน้อยมากที่จะเข้ามาระบาดในประเทศไทย ดังนั้นประชาชนอย่าเพิ่งตระหนก แต่หากมีอาการท้องเสียแบบมีลิ่มเลือดปนควรรีบพบแพทย์ทันที
สำหรับเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ชนิดโอ 104 เป็นเชื้อที่ทำลายตับ บางครั้งจะทำให้เกิดอาการชักหรือสลบเนื่องจากตกเลือดในสมอง เส้นโลหิตอุดตันในสมอง หรือมีอาการโคม่า แต่เชื้อดังกล่าวสามารถฆ่าได้ด้วยความร้อนตั้งแต่ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป เพียงประชาชนปฏิบัติตามหลักอนามัย คือ กินแต่ของร้อนปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลาง และล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ ก็จะปลอดภัยจากการติดเชื้อดังกล่าว
ในส่วนของไทยเองได้กำชับด่านควบคุมโรคท่าอากาศยานนานาชาติในประเทศ ให้ตรวจสอบติดตามผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเยอรมนี หากมีอาการท้องเสียปนมูกเลือด ให้ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์การแพทย์ ว่าติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไลหรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์รุ่งเรือง เชื่อว่าเชื้อดังกล่าวมีโอกาสน้อยมากที่จะเข้ามาระบาดในประเทศไทย ดังนั้นประชาชนอย่าเพิ่งตระหนก แต่หากมีอาการท้องเสียแบบมีลิ่มเลือดปนควรรีบพบแพทย์ทันที
สำหรับเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ชนิดโอ 104 เป็นเชื้อที่ทำลายตับ บางครั้งจะทำให้เกิดอาการชักหรือสลบเนื่องจากตกเลือดในสมอง เส้นโลหิตอุดตันในสมอง หรือมีอาการโคม่า แต่เชื้อดังกล่าวสามารถฆ่าได้ด้วยความร้อนตั้งแต่ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป เพียงประชาชนปฏิบัติตามหลักอนามัย คือ กินแต่ของร้อนปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลาง และล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ ก็จะปลอดภัยจากการติดเชื้อดังกล่าว