เอเอฟพี - เยอรมนีเรียกประชุมฉุกเฉิน หลังมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 ราย และล้มป่วยอีกหลายร้อยคน จากโรคอาหารเป็นพิษ ที่กำลังระบาด อันเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งพบในแตงกวานำเข้าจากต่างประเทศ
สื่อเยอรมนีรายงานว่า จำนวนผู้ป่วยจากอาหารเป็นพิษทั้งที่ได้รับการยืนยัน และผู้ที่ยังอยู่ในข่ายต้องสงสัย เพิ่มขึ้นแตะ 1,200 รายแล้ว นับตั้งแต่มีรายงานผู้ป่วยรายแรกทางตอนเหนือของประเทศ เมื่อกว่า 2 สัปดาห์ก่อน
ด้านสถาบันรอแบร์ต คอช (อาร์เคไอ) สถาบันศึกษาวิจัยโรคแห่งชาติของเยอรมนีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิต 3 คนเกี่ยวข้องอย่างชัดเจนกับเชื้อแบคทีเรีย และล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คนเป็นหญิงวัย 50 ปี และชายวัย 75 ปี ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตโดยรวมทั้งประเทศเพิ่มเป็นอย่างน้อย 14 คน
ขณะที่ศูนย์ป้องกัน และควบคุมโรคของยุโรป ในกรุงสตอกโฮล์ม ระบุว่า การแพร่ระบาดของเชื้ออีโคไลในครั้งนี้ ถือเป็น 1 ในการระบาดที่ร้ายแรงที่สุดในโลก และในเยอรมนีทีเดียว
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เมืองเบียร์ยังเตือนไม่ให้ประชาชนบริโภคผักสด หลังพบร่องรอยของเชื้ออีโคไลในแตงกวาชีวภาพจากสเปนในสัปดาห์ที่แล้ว แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าอะไรเป็นสาเหตุของการระบาดอย่างฉับพลันของเชื้อแบคทีเรียดังกล่าว ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอาการท้องร่วง ถ่ายเป็นเลือด ตับได้รับความเสียหายรุนแรง และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
โรคระบาดนี้เกิดขึ้นในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ เดนมาร์ก สวีเดน และเนเธอร์แลนด์ แต่ผู้ป่วยเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีความเชื่อมโยงกับผู้ที่เพิ่งเดินทางไป หรือกลับจากเยอรมนี ซึ่งตามปกติในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยราว 1,000 ราย
อีลเซ แอกเนอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกิจการผู้บริโภคของเยอรมนี ได้ประชุมฉุกเฉินกับดานีล บาหร์ รัฐมนตรีสาธารณสุข รวมถึงผู้แทนรัฐบาลท้องถิ่น โดยระบุว่าวิกฤติครั้งนี้กว้างขวางระดับยุโรป แต่ยังไม่อาจระบุได้แน่ชัดถึงแหล่งที่มาของการปนเปื้อน
ส่วนเบลเยียม และรัสเซียได้สั่งห้ามนำเข้าผักหลายชนิดจากสเปน ซึ่งเชื่อว่าอย่างน้อยก็เป็นแหล่งที่มาของแตงกวาปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย โดยที่รัฐบาลแดนกระทิงดุปฏิเสธ พร้อมขู่ว่าจะเรียกค่าเสียหายจากสหภาพยุโรปจากการเสียยอดขายไปด้วย