เอเอฟพี - รัฐมนตรีเกษตรสหภาพยุโรปเตรียมประชุมฉุกเฉิน ณ ประเทศลักเซมเบิร์ก วันนี้ (7) ว่าด้วยเรื่องวิกฤตอีโคไล เชื้อแบคทีเรียมรณะที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 23 ราย ขณะเดียวกันเยอรมนียังไม่สามารถอธิบายสาเหตุของการแพร่ระบาดได้ หลังผลการตรวจสอบถั่วงอกต้องสงสัยออกมาเป็นลบ
วาระที่รัฐมนตรียุโรปเตรียมถกกันรวมถึงประเด็นความช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งไม่สามารถขายผลผลิตได้ เนื่องจากมีผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ กังวลว่าอาจปนเปื้อนเชื้ออีโคไล นอกจากนี้ บรรดาผู้มีอำนาจจะทบทวนระบบความปลอดภัยด้านอาหารในยุโรป เพื่อรับประกันว่าการประกาศเตือนใดๆ ก็ตามนั้น “มีข้อพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์” ชัดเจน ก่อนเผยแพร่ออกสู่สาธารณะ
จอห์น ดัลลี คณะกรรมาธิการกิจการนโยบายสาธารณสุขแห่งอียู ระบุว่าสเปนเป็นผู้ขอให้มีการทบทวนระบบการเตือนภัยเรื่องอาหาร เนื่องจากสเปนเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากประกาศเตือนที่ไม่มีข้อมูลแน่ชัดของนครฮัมบูร์ก เยอรมนี ว่า ต้นตอของอีโคไลระบาดมาจากแตงกวาเกษตรอินทรียร์ของสเปน
กรุงมาดริดประกาศจะเรียกร้องค่าชดเชยจากเยอรมนี หลังคำเตือนเช่นว่านั้นทำให้ผักจากสเปนขายไม่ออก โดยสมาคมผู้ส่งออกผักและผลไม้สเปนประเมินว่า มีความเสียหายมูลค่า 225 ล้านยูโร (ประมาณ 9,900 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ ตั้งแต่เกิดวิกฤตแบคทีเรียมรณะ
ขณะเดียวกัน เยอรมนีแจ้งผลการทดสอบถั่วงอกและผักงอกที่ต้องสงสัยว่าเป็นตัวการอีโคไลเบื้องต้น ว่า ออกมาเป็น “ลบ” ตัวอย่างถั่วงอกเหล่านี้เก็บมาจากฟาร์มในรัฐโลว์เออร์แซกโซนี ตอนเหนือของเยอรมนี หลังจากรัฐมนตรีเกษตรของรัฐบาลท้องถิ่นระบุว่ารัฐนี้เกิดการระบาดของเชื้ออีโคไลเป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเคยเกิดการระบาดในลักษณะเดียวกันนี้ในช่วงปี 1996 - 2003 มีผู้ป่วยมากกว่า 10,000 คน และเสียชีวิตไปจำนวน 22 คน ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นระบุ
สถานการณ์ปัจจุบัน เชื้ออีโคไลระบาดในประเทศต่างๆ อย่างน้อย 14 ประเทศ ไม่เว้นแม้กระทั่งสหรัฐฯ มีผู้เคราะห์ร้ายชีวิต 22 คนเสียชีวิตในเยอรมนี และอีกหนึ่งคนในสวีเดน