รัฐบาลญี่ปุ่นออกคำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดี(21) ห้ามไม่ให้ใครเข้าไปในพื้นที่อพยพรัศมี 20 กิโลเมตรรอบๆ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ ซึ่งยังคงปล่อยกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลออกมา ถึงแม้ “วิกฤตนิวเคลียร์” จะล่วงเลยมาเกือบ 6 สัปดาห์แล้ว ขณะเดียวกัน ทางการยังสั่งตรวจสอบว่าน้ำนมของบรรดาคุณแม่ที่อยู่ใกล้โรงไฟฟ้าแห่งนี้ จะการปนเปื้อนรังสีหรือไม่
คำสั่งห้ามดังกล่าว ซึ่งจะเพิ่มน้ำหนักในทางกฎหมายให้แก่คำสั่งกำหนดเขตอพยพที่ได้ประกาศใช้หลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้แล้ว ออกมาภายหลังที่ตำรวจพบว่ายังมีผู้คนอีกกว่า 60 ครอบครัวพำนักอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว อีกทั้งมีประชาชนจำนวนมากกำลังกลับไปบ้านเรือนที่พวกเขาละทิ้งมา เพื่อเก็บรวบรวมสมบัติข้าวของ
อนึ่ง เอดาโนะ หัวหน้าโฆษกรัฐบาลแถลงเช่นกันว่า กระทรวงสาธารณสุขจะตรวจสอบว่าน้ำนมของคุณแม่ทั้งหลายได้รับผลกระทบกระเทือนจากกัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลจากโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ หรือไม่ ทั้งนี้หลังจากองค์กรภาคประชาชนแห่งหนึ่งแจ้งว่า จากการตรวจของสถาบันเอกชนพบว่า ตัวอย่างน้ำนมจากมารดา 4 คนในจังหวัดต่างๆ ใกล้ๆ กรุงโตเกียว มีระดับกัมมันตรังสีไอโอดีน-131 สูงกว่าปกติเล็กน้อย
คำสั่งห้ามดังกล่าว ซึ่งจะเพิ่มน้ำหนักในทางกฎหมายให้แก่คำสั่งกำหนดเขตอพยพที่ได้ประกาศใช้หลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้แล้ว ออกมาภายหลังที่ตำรวจพบว่ายังมีผู้คนอีกกว่า 60 ครอบครัวพำนักอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว อีกทั้งมีประชาชนจำนวนมากกำลังกลับไปบ้านเรือนที่พวกเขาละทิ้งมา เพื่อเก็บรวบรวมสมบัติข้าวของ
อนึ่ง เอดาโนะ หัวหน้าโฆษกรัฐบาลแถลงเช่นกันว่า กระทรวงสาธารณสุขจะตรวจสอบว่าน้ำนมของคุณแม่ทั้งหลายได้รับผลกระทบกระเทือนจากกัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลจากโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ หรือไม่ ทั้งนี้หลังจากองค์กรภาคประชาชนแห่งหนึ่งแจ้งว่า จากการตรวจของสถาบันเอกชนพบว่า ตัวอย่างน้ำนมจากมารดา 4 คนในจังหวัดต่างๆ ใกล้ๆ กรุงโตเกียว มีระดับกัมมันตรังสีไอโอดีน-131 สูงกว่าปกติเล็กน้อย