สมาชิกสหภาพแรงงานอังกฤษ ประมาณ 250,000-300,000 คน รวมทั้งครู พยาบาล และนักศึกษา รวมตัวประท้วงย่านใจกลางกรุงลอนดอนของอังกฤษ เพราะไม่พอใจนโยบายรัดเข็มขัดของรัฐบาล ที่หวังลดงบประมาณขาดดุลในช่วง 5 ปีข้างหน้า ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจถดถอย โดยตัดลดงบประมาณด้านสวัสดิการสังคมลงกว่า 130,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และทำให้ผู้คนต้องตกงาน มากกว่า 300,000 คน ซึ่งผู้ประท้วงเห็นว่าไม่เป็นธรรม
นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่สุด นับแต่การประท้วงต่อต้านสงครามอิรักเมื่อปี 2546 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 1 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ากลุ่มผู้จัดการประท้วงต้องการเคลื่อนไหวอย่างสันติ แต่มีกลุ่มผู้ประท้วง ราว 500 คน พยายามก่อความรุนแรง จนเกิดการปะทะกับตำรวจที่กระจายกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ประมาณ 4,500 นาย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 35 คน เป็นตำรวจ 5 นาย และผู้ประท้วง 30 คน และถูกจับกุมอย่างน้อย 202 คน
นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่สุด นับแต่การประท้วงต่อต้านสงครามอิรักเมื่อปี 2546 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 1 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ากลุ่มผู้จัดการประท้วงต้องการเคลื่อนไหวอย่างสันติ แต่มีกลุ่มผู้ประท้วง ราว 500 คน พยายามก่อความรุนแรง จนเกิดการปะทะกับตำรวจที่กระจายกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ประมาณ 4,500 นาย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 35 คน เป็นตำรวจ 5 นาย และผู้ประท้วง 30 คน และถูกจับกุมอย่างน้อย 202 คน