พท.โต้ มาร์ค พูดความจริงครึ่งเดียว ยันหนี้ปี 49 ต่ำกว่า 53 แน่นอน แต่ รบ.ดึงตัวเลขเดือน ก.ย.มาโชว์ ทำ ปชช.เข้าใจผิด แขวะเป็นสันดาน ปชป.เพื่อให้รัฐบาลดูดี แต่กลับป้ายสีให้ร้ายผู้อื่น
วันนี้ (15 มี.ค.) ที่รัฐสภา นางสาวธิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงตัวเลขหนี้สาธารณะ ว่า ในสมัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มียอดหนี้สาธารณะอยู่ที่ 40.48% ของจีดีพี ขณะที่ในปี 53 ณ วันที่ 31 ธันวาคม ตัวเลขหนี้อยู่ที่ 42.49% ของจีดีพี แต่ นายอภิสิทธิ์ กลับพูดให้ประชาชนเข้าใจว่าหนี้สาธารณะในสมัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ มียอดหนี้ที่สูงกว่า ด้วยการนำเอาตัวเลขในเดือนกันยายน 2553 ซึ่งมียอดหนี้ที่ต่ำกว่ามาเป็นตัวเลขเพื่อเปรียบเทียบ ทำให้ตัวเองดูดี ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้วการเปรียบเทียบตัวเลขหนี้ จะต้องนำเอาตัวเลขในช่วงสิ้นปีเปรียบเทียบก่อน ไม่ใช่ใช้ตัวเลขในแต่ละเดือน
นางสาวธิติมา กล่าวต่อว่า นายอภิสิทธิ์ ยังใช้ตัวเลขการชดเชยกองทุนน้ำมันในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เข้าไปแทรกแซงน้ำมัน 90,000 ล้านบาท โดยไม่พูดถึงสาเหตุของการเข้าไปแทรกแซงราคาน้ำมัน ในขณะนั้นโดยในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันในตะวันออกกลาง มีราคาแพงมาก เพราะเป็นช่วสงครามอิรัก ซึ่งต่างจากราคาน้ำมันในปัจจุบันที่อยู่ในอัตราที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกัน แต่รัฐบาลกลับใช้งบประมาณในการแทรกแซงราคาน้ำมันมากกว่าในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ แต่การที่ นายอภิสิทธิ์ เลือกพูดข้อมูลที่เป็นจริงเพียงครึ่งเดียว เพื่อให้รัฐบาลของตนเองดูดีแต่กลับป้ายสีให้ร้ายผู้อื่น
วันนี้ (15 มี.ค.) ที่รัฐสภา นางสาวธิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงตัวเลขหนี้สาธารณะ ว่า ในสมัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มียอดหนี้สาธารณะอยู่ที่ 40.48% ของจีดีพี ขณะที่ในปี 53 ณ วันที่ 31 ธันวาคม ตัวเลขหนี้อยู่ที่ 42.49% ของจีดีพี แต่ นายอภิสิทธิ์ กลับพูดให้ประชาชนเข้าใจว่าหนี้สาธารณะในสมัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ มียอดหนี้ที่สูงกว่า ด้วยการนำเอาตัวเลขในเดือนกันยายน 2553 ซึ่งมียอดหนี้ที่ต่ำกว่ามาเป็นตัวเลขเพื่อเปรียบเทียบ ทำให้ตัวเองดูดี ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้วการเปรียบเทียบตัวเลขหนี้ จะต้องนำเอาตัวเลขในช่วงสิ้นปีเปรียบเทียบก่อน ไม่ใช่ใช้ตัวเลขในแต่ละเดือน
นางสาวธิติมา กล่าวต่อว่า นายอภิสิทธิ์ ยังใช้ตัวเลขการชดเชยกองทุนน้ำมันในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เข้าไปแทรกแซงน้ำมัน 90,000 ล้านบาท โดยไม่พูดถึงสาเหตุของการเข้าไปแทรกแซงราคาน้ำมัน ในขณะนั้นโดยในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันในตะวันออกกลาง มีราคาแพงมาก เพราะเป็นช่วสงครามอิรัก ซึ่งต่างจากราคาน้ำมันในปัจจุบันที่อยู่ในอัตราที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกัน แต่รัฐบาลกลับใช้งบประมาณในการแทรกแซงราคาน้ำมันมากกว่าในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ แต่การที่ นายอภิสิทธิ์ เลือกพูดข้อมูลที่เป็นจริงเพียงครึ่งเดียว เพื่อให้รัฐบาลของตนเองดูดีแต่กลับป้ายสีให้ร้ายผู้อื่น