เอเอฟพี - ผู้โดยสารเครื่องบินจะเพิ่มขึ้นอีก 800 ล้านคนทั่วโลก ในปี 2014 ซึ่งจะทำให้ระบบขนส่งทางอากาศต้องมีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไอเอทีเอ) เผยวันนี้ (14)
แถลงการณ์จากไอเอทีเอ ระบุว่า ในปี 2014 จะมีผู้โดยสารเครื่องบินราว 3,300 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งเพิ่มจากจำนวน 2,500 ล้านคน ในปี 2009 ถึง 32 เปอร์เซ็นต์
“ผู้โดยสารจากจีนจะเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่สุด” ไอเอทีเอ ระบุในแถลงการณ์
“ใน 800 ล้านคนนี้ จะมีประมาณ 360 ล้านคนที่ใช้เส้นทางในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และในจำนวนนั้นก็จะเป็นผู้ที่ติดต่อกับประเทศจีนถึง 214 ล้านคน”
“สหรัฐฯจะยังเป็นตลาดใหญ่ที่สุด สำหรับธุรกิจการบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ”
ไอเอทีเอ ยังประเมินว่า จะมีสินค้าที่ขนส่งทางอากาศมากถึง 38 ล้านตัน ในปี 2014 เพิ่มขึ้นจาก 26 ล้านตันในปี 2009 ราว 46 เปอร์เซ็นต์
จีโอแวนนี บิซิกนานี ผู้อำนวยการและผู้บริหารไอเอทีเอ กล่าวว่า จำนวนผู้โดยสาร และสินค้าที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ระบบขนส่งทางอากาศต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ, สิ่งอำนวยความสะดวกในสนามบิน และมาตรการรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ ภาคธุรกิจการบินจะต้องร่วมมือกับรัฐบาลอย่างใกล้ชิดมากขึ้นด้วย
บิซิกนานี ระบุว่า อุตสาหกรรมการบินจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการเจริญเติบโตเพียงเล็กน้อย
“ภาวะหนี้บริโภค, การว่างงาน และนโยบายรัดเข็มขัดของรัฐบาล จะยิ่งทำให้อัตราการเจริญเติบโตของธุรกิจการบินลดลง” บิซิกนานี กล่าว
ไอเอทีเอ ระบุว่า ประเทศที่มีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในช่วงปี 2009-2014 ได้แก่ จีน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เวียดนาม, มาเลเซีย และ ศรีลังกา
ตะวันออกกลางจะเป็นภูมิภาคที่ตลาดการบินเติบโตเร็วที่สุด โดยมีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 9.4 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือ แอฟริกา 7.7 เปอร์เซ็นต์, เอเชีย-แปซิฟิก 7.6 เปอร์เซ็นต์, ละตินอเมริกา 5.7 เปอร์เซ็นต์, อเมริกาเหนือ 4.9 เปอร์เซ็นต์ และ ยุโรป 4.7 เปอร์เซ็นต์
เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ไอเอทีเอปรับเพิ่มการประเมินรายได้ของสายการบินทั่วโลกเป็น 15,100ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2010 แต่เตือนว่าผลกำไรอาจลดลงเหลือเพียง 9,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีนี้