จากกรณีตำรวจกองปราบปรามเข้าตรวจสอบเครื่องบินโบอิ้ง 747 จำนวน 2 ลำ ที่บริษัทโอเรียนท์ไทย แอร์ไลน์ เช่าพื้นที่ท่าอากาศยานพิษณุโลกจอด มีการทาสีทับเครื่องหมายต่างๆ และถอดเครื่องยนต์ออกไป 8 เครื่อง สงสัยว่าจะไม่เสียภาษีอย่างถูกต้องนั้น
นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานที่ปรึกษาบริษัทโอเรียนท์ไทย แอร์ไลน์ หรือ วันทูโก ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะเครื่องบินทั้ง 2 ลำ มีอายุกว่า 32 ปี ไม่ได้มีการใช้งานมาแล้ว 5-6 ปี เป็นเครื่องที่เช่าเข้ามาทำการบินอย่างถูกต้อง เมื่อปลดระวางจึงนำไปจอด
ก่อนหน้านี้ กรมศุลกากรเคยติดต่อขอเรียกเก็บภาษีเครื่องบินโบอิ้งอีกลำที่จอดอยู่ที่สนามบินอู่ตะเภา โดยอ้างว่า ทำให้รัฐสูญรายได้ จึงขอชี้แจงว่า เครื่องบินเหล่านี้ภาษีเป็น 0 คือไม่ต้องเสียภาษี เพราะไม่ได้ทำการบิน แต่หากมีการชำแหละ หรือแยกชิ้นส่วน จะต้องเสียค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งทางธุรกิจสามารถนำไปขอคืนภาษีได้ในภายหลัง หากต้องการยึดเครื่องบินไม่ขัดข้อง เพราะเจ้าของเครื่องบินไม่มีความประสงค์ขอรับเครื่องที่หมดสภาพเหล่านี้กลับคืน เพราะทางบริษัทไม่ต้องการแบกรับภาระ หน่วยงานใดต้องการนำไปใช้ประโยชน์จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ด้านการบิน ยินดียกให้ฟรี
ขณะที่ พ.ต.อ.ประสบโชค พร้อมมูล โฆษกกองปราบปราม กล่าวว่า แม้ว่าผู้บริหารเจ้าของเครื่องบินจะชี้แจงผ่านสื่อว่าไม่ผิด แต่ทางตำรวจต้องดำเนินการสอบสวนต่อไป เพราะมีข้อสงสัยหลายประการ เช่นที่ระบุว่า เครื่องยนต์อยู่ที่สนามบินดอนเมือง ต้องไปดูว่าอยู่จริงหรือไม่ ส่วนการเสียภาษีต่างๆ ต้องดูว่ามีหลักฐานหรือไม่ ทั้งนี้ตำรวจไม่มีเจตนากลั่นแกล้ง เพียงแต่ขอตรวจสอบให้กระจ่างชัด ยืนยันจะให้ความยุติธรรมกับบริษัทโอเรียนท์ไทยฯ
นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานที่ปรึกษาบริษัทโอเรียนท์ไทย แอร์ไลน์ หรือ วันทูโก ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะเครื่องบินทั้ง 2 ลำ มีอายุกว่า 32 ปี ไม่ได้มีการใช้งานมาแล้ว 5-6 ปี เป็นเครื่องที่เช่าเข้ามาทำการบินอย่างถูกต้อง เมื่อปลดระวางจึงนำไปจอด
ก่อนหน้านี้ กรมศุลกากรเคยติดต่อขอเรียกเก็บภาษีเครื่องบินโบอิ้งอีกลำที่จอดอยู่ที่สนามบินอู่ตะเภา โดยอ้างว่า ทำให้รัฐสูญรายได้ จึงขอชี้แจงว่า เครื่องบินเหล่านี้ภาษีเป็น 0 คือไม่ต้องเสียภาษี เพราะไม่ได้ทำการบิน แต่หากมีการชำแหละ หรือแยกชิ้นส่วน จะต้องเสียค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งทางธุรกิจสามารถนำไปขอคืนภาษีได้ในภายหลัง หากต้องการยึดเครื่องบินไม่ขัดข้อง เพราะเจ้าของเครื่องบินไม่มีความประสงค์ขอรับเครื่องที่หมดสภาพเหล่านี้กลับคืน เพราะทางบริษัทไม่ต้องการแบกรับภาระ หน่วยงานใดต้องการนำไปใช้ประโยชน์จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ด้านการบิน ยินดียกให้ฟรี
ขณะที่ พ.ต.อ.ประสบโชค พร้อมมูล โฆษกกองปราบปราม กล่าวว่า แม้ว่าผู้บริหารเจ้าของเครื่องบินจะชี้แจงผ่านสื่อว่าไม่ผิด แต่ทางตำรวจต้องดำเนินการสอบสวนต่อไป เพราะมีข้อสงสัยหลายประการ เช่นที่ระบุว่า เครื่องยนต์อยู่ที่สนามบินดอนเมือง ต้องไปดูว่าอยู่จริงหรือไม่ ส่วนการเสียภาษีต่างๆ ต้องดูว่ามีหลักฐานหรือไม่ ทั้งนี้ตำรวจไม่มีเจตนากลั่นแกล้ง เพียงแต่ขอตรวจสอบให้กระจ่างชัด ยืนยันจะให้ความยุติธรรมกับบริษัทโอเรียนท์ไทยฯ