นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้หารือนอกรอบ กับกระทรวงการคลัง และกระทรวงพลังงาน ถึงการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ทั้งระบบใหม่ โดยทั้ง 3 กระทรวง เห็นพ้องกันว่า ในหลักการคำนวณภาษีสรรพสามิตรถยนต์ตามโครงสร้างใหม่ ซึ่งจะกำหนด 3 คุณสมบัติ ประกอบด้วย การใช้พลังงานทดแทน และประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ระดับการปล่อยมลพิษออกสู่สิ่งแวดล้อม และมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งหากค่ายรถยนต์ใดสามารถผลิตรถที่มีคุณสมบัติตามมาตรฐานที่กำหนด จะได้รับอัตราภาษีที่ต่ำลง โดยทั้ง 3 กระทรวง พร้อมที่จะเร่งดำเนินการจัดทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด ซึ่งกระทรวงการคลัง ได้รับปากว่าจะเร่งรัดการทำงานของกรมสรรพสามิตในการจัดทำโครงสร้างภาษีดังกล่าว และโครงสร้างภาษีใหม่จะไม่กระทบต่อรายได้ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ให้เปลี่ยนแปลงจากปัจจุบันมากนัก ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้ความมั่นใจว่า การปรับโครงสร้างภาษีในครั้งนี้ จะไม่กระทบความเป็น โปรดักส์ แชมเปี้ยน ของรถกระบะ 1 ตัน และให้เวลาในการปรับตัวสำหรับค่ายรถยนต์เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี นับจากวันที่ กฎหมายมีผลบังคับใช้ และจะยังคงเป็นโปรดักส์ แชมเปี้ยน ควบคู่ไปกับรถอีโคคาร์ ด้วย
ปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์อันดับที่ 12 ของโลก ด้วยยอดการผลิตในปี 2553 ที่ 1.65 ล้านคัน และเชื่อว่าจะเพิ่มมากเป็นกว่า 2 ล้านคันในปีนี้ พร้อมทั้งตั้งเป้า 3-4 ปี จะผลิตรถยนต์ได้มากกว่า 2.5 ล้านคัน และทำให้ประเทศไทยเลื่อนมาเป็นฐานการผลิตรถยนต์อันดับที่ 10 ของโลก
ปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์อันดับที่ 12 ของโลก ด้วยยอดการผลิตในปี 2553 ที่ 1.65 ล้านคัน และเชื่อว่าจะเพิ่มมากเป็นกว่า 2 ล้านคันในปีนี้ พร้อมทั้งตั้งเป้า 3-4 ปี จะผลิตรถยนต์ได้มากกว่า 2.5 ล้านคัน และทำให้ประเทศไทยเลื่อนมาเป็นฐานการผลิตรถยนต์อันดับที่ 10 ของโลก