เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุชาติ เชิงชั้น พนักงานสอบสวน สภ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตแป้งมัน บริษัท ชัยภูมิสตาร์ช จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ช่วงบริเวณริมถนนสาย ชัยภูมิ-สีคิ้ว ช่วงระหว่างบ้านหนองหญ้าข้าวนก ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ เป็นเหตุให้คนงานได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก หลังรับแจ้งจึงรีบประสานไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อ.จตุรัส และ อบต.ใกล้เคียงนำรถดับเพลิงออกฉีดน้ำสกัดกั้น และหน่วยกู้ชีพ รพ.จตุรัส นำแพทย์ พยาบาล ออกให้การช่วยเหลือ พร้อมรีบรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ เป็นโรงงานขนาดใหญ่เนื้อที่กว้างกว่า 500 ไร่ เปิดกิจกรรมรับซื้อหัวมันสำปะหลัง และผลิตแป้งมันจำหน่าย และมีพื้นที่เป็นตัวอาคารโรงงานขนาดใหญ่ 2 หลัง และแบ่งเป็นส่วนพื้นที่ผลิตแก๊สจากเศษมันสำปะหลัง ตั้งอยู่ที่บริเวณด้านหลังโรงงาน ห่างประมาณ 50 เมตร โดยใช้เนื้อที่ทำเป็นบ่อหมักแก๊สจำนวนหลายบ่อ รวมเนื้อกว้างกว่า 10 ไร่ และเชื่อมต่อท่อขนาด 75 ซม. ผ่านเข้าตัวอาคารเพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เอง
เจ้าหน้าที่โรงแป้งมันกล่าวว่า ท่อเชื่อมแก๊สที่เชื่อมต่อเข้ากับตัวอาคารผลิตแป้งมัน ได้เกิดระเบิดขึ้นและเกิดเพลิงไหม้ลุกลามตัวอาคารโรงงานอย่างรวดเร็ว ทำให้ระหว่างช่วงเกิดเหตุซึ่งมีคนงานทำงานอยู่ภายในตัวอาคารทั้ง 2 หลัง รวมกว่า 100 คน ถูกแรงแก๊สระเบิดใส่จนไฟลุกท่วมตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส เบื้องต้น กว่า 30 ราย และไฟได้ลุกลามขยายวงอย่างรวดเร็วไหม้ตัวอาคารโรงงานจำนวน 1 หลัง จนหลังคาถล่มลงมาเสียหายทั้งหมด และคนงานทั้งหมดต่างวิ่งหนีตายกันอย่างโกลาหล
นอกจากนี้ ในบริเวณดังกล่าวยังมีเสียงระเบิดเสียงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง นานกว่า 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องประสานระดมกำลังจากหน่วยดับเพลิงในหลายพื้นที่ ทั้งจากมูลนิธิสว่างคุณธรรม เทศบาลเมืองชัยภูมิ เทศบาลตำบลหนองบัวโคก เทศบาลตำบลบ้านค่าย และเทศบาลอ.จัตุรัส เข้าช่วยระงับเหตุรวมกว่า 20 คัน นานกว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ก็เผาผลาญอาคารเสียหายจำนวนมาก
จากการตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ เบื้องต้น ทั้งหน่วยเจ้าหน้าที่วิศวกรโรงงาน คาดว่าน่าจะเกิดจากมีประกายไฟในพื้นที่กระเด็นตกใกล้ท่อส่งแก๊ส แต่ไม่ใช่เกิดจากการสูบบุหรี่ของพนักงานอย่างแน่นอน เพราะทางโรงงานมีกฎห้ามสูบบุหรี่เด็ดขาด ซึ่งสาเหตุและที่มาของประกายไฟนั้นน่าจะมาจากเปลวไฟจากการเผาเศษหญ้าที่ปลิวมาตกใกล้ท่อก๊าซ จึงทำให้เกิดเหตุระเบิดขึ้น
จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ เบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 40 คน และมี 30 คนที่บาดเจ็บสาหัสถูกไฟคลอกอาการก็ค่อนข้างเจ็บรุนแรง ขณะนี้ถูกเร่งนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา เป็นการด่วนแล้ว และบางส่วนได้นำตัวส่ง รพ.ชัยภูมิ เพื่อให้การเหลือโดยด่วนแล้ว เบื้องต้น คาดว่ามูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
ที่เกิดเหตุ เป็นโรงงานขนาดใหญ่เนื้อที่กว้างกว่า 500 ไร่ เปิดกิจกรรมรับซื้อหัวมันสำปะหลัง และผลิตแป้งมันจำหน่าย และมีพื้นที่เป็นตัวอาคารโรงงานขนาดใหญ่ 2 หลัง และแบ่งเป็นส่วนพื้นที่ผลิตแก๊สจากเศษมันสำปะหลัง ตั้งอยู่ที่บริเวณด้านหลังโรงงาน ห่างประมาณ 50 เมตร โดยใช้เนื้อที่ทำเป็นบ่อหมักแก๊สจำนวนหลายบ่อ รวมเนื้อกว้างกว่า 10 ไร่ และเชื่อมต่อท่อขนาด 75 ซม. ผ่านเข้าตัวอาคารเพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เอง
เจ้าหน้าที่โรงแป้งมันกล่าวว่า ท่อเชื่อมแก๊สที่เชื่อมต่อเข้ากับตัวอาคารผลิตแป้งมัน ได้เกิดระเบิดขึ้นและเกิดเพลิงไหม้ลุกลามตัวอาคารโรงงานอย่างรวดเร็ว ทำให้ระหว่างช่วงเกิดเหตุซึ่งมีคนงานทำงานอยู่ภายในตัวอาคารทั้ง 2 หลัง รวมกว่า 100 คน ถูกแรงแก๊สระเบิดใส่จนไฟลุกท่วมตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส เบื้องต้น กว่า 30 ราย และไฟได้ลุกลามขยายวงอย่างรวดเร็วไหม้ตัวอาคารโรงงานจำนวน 1 หลัง จนหลังคาถล่มลงมาเสียหายทั้งหมด และคนงานทั้งหมดต่างวิ่งหนีตายกันอย่างโกลาหล
นอกจากนี้ ในบริเวณดังกล่าวยังมีเสียงระเบิดเสียงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง นานกว่า 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องประสานระดมกำลังจากหน่วยดับเพลิงในหลายพื้นที่ ทั้งจากมูลนิธิสว่างคุณธรรม เทศบาลเมืองชัยภูมิ เทศบาลตำบลหนองบัวโคก เทศบาลตำบลบ้านค่าย และเทศบาลอ.จัตุรัส เข้าช่วยระงับเหตุรวมกว่า 20 คัน นานกว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ก็เผาผลาญอาคารเสียหายจำนวนมาก
จากการตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ เบื้องต้น ทั้งหน่วยเจ้าหน้าที่วิศวกรโรงงาน คาดว่าน่าจะเกิดจากมีประกายไฟในพื้นที่กระเด็นตกใกล้ท่อส่งแก๊ส แต่ไม่ใช่เกิดจากการสูบบุหรี่ของพนักงานอย่างแน่นอน เพราะทางโรงงานมีกฎห้ามสูบบุหรี่เด็ดขาด ซึ่งสาเหตุและที่มาของประกายไฟนั้นน่าจะมาจากเปลวไฟจากการเผาเศษหญ้าที่ปลิวมาตกใกล้ท่อก๊าซ จึงทำให้เกิดเหตุระเบิดขึ้น
จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ เบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 40 คน และมี 30 คนที่บาดเจ็บสาหัสถูกไฟคลอกอาการก็ค่อนข้างเจ็บรุนแรง ขณะนี้ถูกเร่งนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา เป็นการด่วนแล้ว และบางส่วนได้นำตัวส่ง รพ.ชัยภูมิ เพื่อให้การเหลือโดยด่วนแล้ว เบื้องต้น คาดว่ามูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
