เอเอฟพี-จีนคว้าน้ำเหลวในการบรรลุสัญญาที่จะออกมาตรการควบคุมการสูบบุหรี่ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนอัตราผู้เสียชีวิตของบรรดาสิงห์อมควัน จะพุ่งกระฉูด หากไม่มีมาตรการรณรงค์ที่เข้มงวด
ปัจจุบันจีนมีผู้สูบบุหรี่ ถึง 300 ล้านคน และอัตราการเสียชีวิตจากบุหรี่ก็ส่อเค้าสูงขึ้น โดยคาดการณ์ว่าในปี 2573 จะมีชาวจีนที่เสียชีวิตเนื่องจากพิษควันบุหรี่ มากกว่า 3.5 ล้านราย เทียบกับ 1.2 ล้านรายในปี 2548 ทั้งนี้ เป็นข้อมูลจากรายงาน หัวเรื่อง “การควบคุมยาสูบ และอนาคตของจีน” จัดทำโดยกรอบอนุสัญญาขององค์การอนามัยโลกว่าด้วยการควบคุมยาสูบ (Framework Convention on Tobacco Control -FCTC) ขององค์การอนามัยโลก
จีนได้เข้าเป็นสมาชิกของ FCTC เมื่อ 5 ปีที่แล้ว พร้อมกับให้คำมั่นการห้ามสูบบุหรี่ ได้แก่ มาตรการห้ามการสูบบุหรี่ภายในอาคารในปี 2554 โดยมีกำหนดเส้นตายการออกมาตรการดังกล่าวในวันทื่ 9 ม.ค.นี้
ในรายงานฯที่เผยเมื่อวันพฤหัสฯ(6 ม.ค.) ระบุว่าจีนได้คะแนนต่ำมากในด้านการควบคุมยาสูบ และปฏิบัติการตามกฎของ FCTC โดยแม้จีนให้คำมั่นควบคุมการสูบบุหรี่ แต่ก็ไม่สามารถใช้มาตรการห้ามสูบบุหรี่ภายในอาคารได้เลย ชาวจีนยังสามารถพ่นควันกันอย่างอิสระตามภัตตาคารและสำนักงาน
ทั้งนี้ การสูบบุหรี่ได้กลายเป็นพฤติกรรมนิสัยที่ฝังรากลึกในสังคมจีน ทั้งยังเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง โดยจีนมีธรรมเนียมให้บุหรี่เป็นการทักทายกันด้วย นอกจากนี้หน่วยงานรัฐในจีนยังเป็นผู้ซื้อบุหรี่เกรดดีรายใหญ่ที่สุด เพื่อใช้เป็นของขวัญแก่เจ้าหน้าที่ อาทิ ในงานเลี้ยงแต่งงาน
ด้วยเงื่อนไขดังกล่าว นอกจากผู้สูบจะได้รับพิษจากบุหรี่เองแล้ว ยังมีผู้ที่ไม่ได้สูบและได้รับควันบุหรี่ หรือผู้สูบบุหรี่มือสองในจีน อีก ราว 738 ล้านคน โดยในจำนวนนี้เป็นเด็ก 182 ล้านคน
ทั้งนี้ จีนจัดเป็นผู้ผลิตยาสูบรายใหญ่สุดของโลก แม้อุตสาหกรรมยาสูบจีนเป็นผู้จ่ายภาษีรายใหญ่ให้แก่รัฐ แต่ก็เป็นอุตสาหกรรมที่สร้างภาระแก่สังคมอย่างหนัก