xs
xsm
sm
md
lg

เปิดโพลความเห็นวัยรุ่นทั่วโลกกับการห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เผยงานวิจัยพบวัยรุ่นทั่วโลกสนับสนุนห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะเกือบ 80% พร้อมหนุนให้เป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยรายงานวิจัยของโฮเวิร์ดโคห์และทีมจากคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ตีพิมพ์ในวารสารโทแบคโก คอนโทรล เดือนมกราคม ที่ทำการวิเคราะห์ความคิดเห็นของวัยรุ่น 13-15 ปี จากการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของวัยรุ่น (GYTS) จำนวน 115 ประเทศ ระหว่าง พ.ศ.2543-2549 รวมจำนวนวัยรุ่นที่สำรวจ 356,395 คน พบว่า ร้อยละ 77.3 ของวัยรุ่นที่สำรวจสนับสนุนนโยบายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ โดยร้อยละ 78.7 ของวัยรุ่นที่ไม่สูบบุหรี่ และร้อยละ 63.6 ของวัยรุ่นที่สูบบุหรี่สนับสนุนนโยบายพื้นที่สาธารณะปลอดบุหรี่
ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต
ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการสนับสนุนพื้นที่สาธารณะปลอดบุหรี่ ได้แก่ ความรู้เรื่องพิษภัยของควันบุหรี่มือสองความรู้เรื่องกลยุทธ์การตลาดของบริษัทบุหรี่ และการมีการเรียนการสอนเรื่องพิษภัยของยาสูบในโรงเรียน ขณะที่ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการไม่สนับสนุนนโยบายพื้นที่ปลอดบุหรี่ ได้แก่ วัยรุ่นที่มีความเสี่ยงที่จะติดบุหรี่ การรับรู้การโฆษณาและส่งเสริมการขายของบริษัทบุหรี่ คณะผู้วิจัยเสนอให้เพิ่มเนื้อหา และความรู้เข้มข้นของการเรียนการสอนถึงพิษภัยของยาสูบในโรงเรียน เพื่อเพิ่มการสนับสนุนกฏหมายห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะ และทำให้สุขภาพของวัยรุ่นดีขึ้น

ด้านนางสุวิมล จันทร์เปรมปรุง เครือข่ายครูนักรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล กล่าวว่า การเรียนการสอนถึงพิษภัยของยาสูบ ยังไม่ได้รับการบรรจุในหลักสูตรของโรงเรียนอย่างจริงๆ จังๆ เครือข่ายครูได้ผลิตคู่มือครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้
โรงเรียนปลอดบุหรี่” เพื่อเป็นแนวทางสำหรับครูในการจัดการเรียนให้แก่นักเรียน เพื่อให้ได้เรียนรู้ประเด็นของบุหรี่กับสุขภาพและสังคม เนื่องจากสถิติพบว่า คนที่รู้เรื่องบุหรี่กับสุขภาพและบุหรี่กับสังคมมากเท่าไร โอกาสที่จะเสพติดบุหรี่ยิ่งน้อยลงเท่านั้น เนื้อหาการเรียนรู้ประกอบด้วยเรื่อง สารพิษในควันบุหรี่ สาเหตุของการสูบบุหรี่ ผลต่อบุคลิกภาพและสุขภาพ พฤติกรรมเสี่ยงจากการสูบบุหรี่ วิธีการเลิกสูบบุหรี่ ควันบุหรี่มือสอง บ้านปลอดควันบุหรี่ รู้เท่าทันบริษัทบุหรี่ และกฏหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งครูสามารถนำไปบูรณาการจัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนได้หลายช่องทาง ได้แก่ การจัดการเรียนรู้ในกลุ่มสาระพละศึกษาและสุขศึกษา กิจกรรมชุมนุม กิจกรรมแนะแนว การจัดค่ายพัฒนาผู้เรียน การจัดกิจกรรมปฐมนิเทศ การจัดกิจกรรมโครงการ เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น